ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 500 จุดในวันพฤหัสบดี (26 พ.ค.) ขานรับผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทค้าปลีก รวมทั้งรายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่สอดคล้องกับการคาดการณ์ของตลาด
ตลาดหุ้นนิวยอร์กยังได้แรงหนุนจากรายงานการประชุมเดือนพ.ค.ของเฟดที่สอดคล้องกับการคาดการณ์ของตลาด โดยรายงานระบุว่า เฟดจะปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ย 0.50% ทั้งในเดือนมิ.ย.และก.ค. และอาจชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงปลายปี หากอัตราเงินเฟ้อปรับตัวลง
-- ดัชนีฟิวเจอร์ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ออสเตรเลีย และฮ่องกง ปรับตัวขึ้นในวันนี้ ตามทิศทางดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์ก ซึ่งบ่งชี้ว่าการซื้อขายในตลาดหุ้นเอเชียมีแนวโน้มที่จะเปิดตลาดในแดนบวก
-- ธนาคารกลางตุรกีประกาศคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 14% ในการประชุมเมื่อคืนวานนี้ โดยได้คงอัตราดอกเบี้ยเป็นเดือนที่ 5 ติดต่อกัน แม้เงินเฟ้อยังคงพุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ อัตราเงินเฟ้อของตุรกีพุ่งขึ้น 69.97% ในเดือนเม.ย. ท่ามกลางการดีดตัวขึ้นของราคาพลังงาน และการทรุดตัวของค่าเงินลีรา
-- แหล่งข่าวระบุว่า กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส จะยังคงยึดมั่นตามข้อตกลงเดิมในการประชุมวันที่ 2 มิ.ย. โดยจะเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันเพียง 432,000 บาร์เรล/วันสำหรับเดือนก.ค. ไม่เปลี่ยนแปลงจากเดือนมิ.ย.
ทั้งนี้ สหรัฐและหลายชาติที่นำเข้าน้ำมันต่างเรียกร้องให้โอเปกพลัสเพิ่มการผลิตให้มากกว่าในระดับปัจจุบันเพื่อสกัดราคาน้ำมันที่พุ่งขึ้นนับตั้งแต่ที่รัสเซียส่งกำลังทหารบุกโจมตียูเครนในวันที่ 24 ก.พ.
อย่างไรก็ดี โอเปกพลัสยืนยันว่าตลาดน้ำมันมีความสมดุล และราคาที่พุ่งขึ้นในขณะนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับปัจจัยพื้นฐานในตลาด
-- ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย กล่าวว่า รัสเซียพร้อมที่จะให้ความร่วมมือในการแก้ไขวิกฤตการณ์อาหารระหว่างประเทศ แต่ชาติตะวันตกจะต้องยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรต่อรัสเซียก่อน
ทั้งนี้ ปธน.ปูตินเปิดเผยเรื่องดังกล่าวในการสนทนาทางโทรศัพท์กับนายมาริโอ ดรากี นายกรัฐมนตรีอิตาลี
นอกจากนี้ ปธน.ปูตินระบุว่า รัสเซียพร้อมที่จะจัดส่งก๊าซธรรมชาติให้แก่อิตาลี รวมทั้งส่งออกธัญพืชและปุ๋ยแก่ประเทศต่างๆ
-- Worldometer ซึ่งเป็นเว็บไซต์รายงานข้อมูลล่าสุดที่มีการรวบรวมจากหน่วยงานด้านสาธารณสุขทั่วโลก ระบุว่า ยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 สะสมทั่วโลกมีจำนวน 529,940,983 ราย ส่วนผู้เสียชีวิตสะสมอยู่ที่ระดับ 6,306,917 ราย
-- สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญเมื่อคืนนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งที่ 2 สำหรับผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 1/65 โดยระบุว่าเศรษฐกิจสหรัฐหดตัว -1.5% จากเดิมที่รายงานว่าหดตัว -1.4% ในตัวเลขประมาณการครั้งที่ 1 ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจสหรัฐหดตัวเพียง -1.3%
ทั้งนี้ เศรษฐกิจสหรัฐหดตัวในไตรมาส 1/65 ซึ่งเป็นการหดตัวครั้งแรกนับตั้งแต่ที่เศรษฐกิจเผชิญภาวะถดถอยโดยได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในช่วงต้นปี 2563
กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 8,000 ราย สู่ระดับ 210,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 215,000 ราย นอกจากนี้ ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานดังกล่าวอยู่ต่ำกว่าระดับ 215,000 ราย ซึ่งเป็นค่าเฉลี่ยต่อสัปดาห์ในช่วงก่อนเกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในสหรัฐ
สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) เปิดเผยว่า ดัชนีการทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) ลดลง 3.9% ในเดือนเม.ย. เมื่อเทียบรายเดือน สู่ระดับ 99.3 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย.2563 และปรับตัวลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 6
ก่อนหน้านี้ นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าดัชนีจะลดลง 2% ในเดือนเม.ย.
เมื่อเทียบรายปี ดัชนีดิ่งลง 9.1% ในเดือนเม.ย.
การทำสัญญาขายบ้านได้รับผลกระทบจากสต็อกบ้านในระดับต่ำ ราคาบ้านที่พุ่งสูง และการปรับตัวขึ้นของอัตราดอกเบี้ยเงินกู้จำนอง
-- สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญวันนี้ สหรัฐจะมีการรายงานดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือนเม.ย. เวลา 19.30 น. ตามเวลาไทย ต่อด้วยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนพ.ค.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน เวลา 21.00 น.