บริษัทมาสเตอร์การ์ดเปิดเผยว่า ธุรกิจของบริษัทมีการเติบโตอย่างแข็งแกร่งในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และลาตินอเมริกา หลังจากที่มาสเตอร์การ์ดถอนธุรกิจออกจากรัสเซียในเดือนมี.ค.ปีนี้ รวมถึงหลังถูกอินเดียสั่งห้ามการออกบัตรใหม่ในปี 2564
นายหลิง ไห่ ประธานร่วมฝ่ายตลาดระหว่างประเทศของมาสเตอร์การ์ดให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า "เอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นภูมิภาคที่น่าจับตามอง เนื่องจากมีกลุ่มประชากรที่มีความพร้อม มีการใช้เทคโนโลยีใหม่ และมีความก้าวหน้าด้านดิจิทัล รวมถึงเป้าหมายของรัฐบาลในการขยายการเข้าถึงบริการทางการเงิน ประเทศต่าง ๆ ในภูมิภาคนี้จะได้รับประโยชน์ด้วยเมื่อห่วงโซ่อุปทานย้ายออกจากจีน"
"เราคาดว่า บริษัทใกล้จะได้ทางออกแล้ว บริษัทกำลังดำเนินการแก้ไขเชิงโครงสร้างกับรัฐบาลอินเดียและธนาคารกลางอินเดีย (RBI) " นายไห่พูดถึงคำสั่งแบนของอินเดีย
ทั้งนี้ ในปี 2564 ธนาคารกลางอินเดีย (RBI) สั่งห้ามบริษัทมาสเตอร์การ์ดไม่ให้ออกบัตรเดบิตหรือบัตรเครดิตใหม่ให้กับลูกค้าที่เป็นชาวอินเดีย โดย RBI ระบุว่า มาสเตอร์การ์ดไม่ได้ปฏิบัติตามข้อบังคับเกี่ยวกับการจัดเก็บข้อมูลที่มีขึ้นในปี 2561 ซึ่งกำหนดให้บริษัทต่างชาติผู้ออกบัตรเดบิตหรือบัตรเครดิตต้องเก็บข้อมูลการทำธุรกรรมในอินเดียเอาไว้ที่ประเทศอินเดียเท่านั้น เพื่อให้หน่วยงานด้านการกำกับดูแลสามารถเข้าถึงเพื่อตรวจสอบได้โดยสะดวก
นอกจากนี้ มาสเตอร์การ์ดยังได้ระงับการทำธุรกรรมในรัสเซียเมื่อเดือนมี.ค.ที่ผ่านมาเพื่อต่อต้านการใช้กำลังบุกยูเครน โดยรัสเซียนั้นเป็นตลาดที่สร้างรายได้สุทธิให้กับบริษัทราว 4% ในปี 2564
ขณะเดียวกัน นายไห่ยังระบุด้วยว่า ยุโรปเป็นตลาดที่น่าจับตามองสำหรับบริษัท เนื่องจากเศรษฐกิจของภูมิภาคนี้กลับมาฟื้นตัวหลังได้รับผลกระทบจากโรคโควิด-19 รวมถึงความก้าวหน้าด้านนวัตกรรมของภูมิภาคนี้