กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ทั่วไป ซึ่งรวมหมวดอาหารและพลังงาน ปรับตัวขึ้น 6.3% ในเดือนเม.ย. เมื่อเทียบรายปี โดยชะลอตัวลงหลังจากพุ่งแตะระดับ 6.6% ในเดือนมี.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 40 ปี หรือนับตั้งแต่เดือนม.ค.2525
ทั้งนี้ การชะลอตัวของดัชนี PCE ทั่วไปในเดือนเม.ย. ถือเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนพ.ย.2563
เมื่อเทียบรายเดือน ส่วนดัชนี PCE ทั่วไป ปรับตัวขึ้น 0.2% ในเดือนเม.ย. จากระดับ 0.9% ในเดือนมี.ค.
ส่วนดัชนี PCE พื้นฐาน ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน และเป็นมาตรวัดอัตราเงินเฟ้อที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ให้ความสำคัญ เพิ่มขึ้น 4.9% ในเดือนเม.ย. เมื่อเทียบรายปี สอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ และชะลอตัวจากระดับ 5.2% ในเดือนมี.ค.
ทั้งนี้ ดัชนี PCE พื้นฐานชะลอตัวลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 2 ในเดือนเม.ย. ซึ่งเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ช่วงต้นปี 2563
เมื่อเทียบรายเดือน ดัชนี PCE พื้นฐานเพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนเม.ย. สอดคล้องกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ หลังจากเพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนมี.ค.เช่นกัน
ทั้งนี้ ดัชนี PCE ถือเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่สามารถตรวจจับการเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมของผู้บริโภค และครอบคลุมราคาสินค้าและบริการในวงกว้างมากกว่าข้อมูลดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) จากกระทรวงแรงงานสหรัฐ