ธนาคารพาณิชย์ในจีนได้ออกมาเรียกร้องให้หน่วยงานกำกับดูแลกฎระเบียบของประเทศผ่อนปรนกฎระเบียบด้านเอกสารอันเข้มงวด เนื่องจากบริษัทต่าง ๆ ไม่สามารถจัดเตรียมเอกสารได้ครบตามข้อบังคับ เพราะข้อจำกัดในช่วงที่รัฐบาลบังคับใช้มาตรการล็อกดาวน์เพื่อสกัดโรคโควิด-19 ซึ่งกดดันให้เหล่าผู้ปล่อยเงินกู้ต้องระงับบริการต่าง ๆ เช่น การเบิกจ่ายเงินกู้
ทั้งนี้ สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า การทำสัญญาและธุรกรรมในประเทศจีนนั้นจะได้รับการยอมรับตามกฎหมายก็ต่อเมื่อเอกสารได้รับการประทับตราบริษัทสีแดงอย่างเป็นทางการ
แต่ธนาคารในจีนนั้นต้องประทับตราเอกสารที่เคาเตอร์สาขา เพื่อทำการเบิกจ่ายเงินกู้ก้อนโตหรืออนุมัติการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ ขณะที่บริการบางประเภทสามารถให้บริการได้เฉพาะที่สาขาที่บริษัทจดทะเบียนเอาไว้เท่านั้น
แหล่งข่าวเปิดเผยว่า ในขณะที่โรคโควิด-19 แพร่ระบาดไปทั่วประเทศจีนและรัฐบาลบังคับใช้มาตรการล็อกดาวน์เป็นวงกว้าง ธนาคารสาขาย่อยจำนวนมากจึงต้องปิดบริการหรือขาดแคลนพนักงานอย่างหนัก จึงทำให้บริษัทขนาดเล็กและขนาดกลางไปจนถึงกิจการของรัฐบาลที่ติดอันดับบริษัทชั้นนำ 500 แห่งแรกทั่วโลกของฟอร์จูน ไม่สามารถจัดเตรียมเอกสารได้ตามข้อบังคับ ทำให้เหล่าผู้ปล่อยเงินกู้ปฏิเสธที่จะให้บริการ
ปัญหาเรื่องเอกสารดังกล่าวทำให้สถานการณ์ของบริษัทต่าง ๆ ย่ำแย่ลงไปอีก หลังจากที่ต้องต่อสู้กับอุปสงค์ที่ลดลงและภาวะชะงักงันด้านห่วงโซ่อุปทานจากผลพวงของการล็อกดาวน์ ทั้งยังบั่นทอนแผนการของจีนในการยับยั้งภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวในประเทศผ่านการเข้าถึงสินเชื่อได้ง่ายดายขึ้นและการเพิ่มปริมาณการให้บริการ
แม้ว่านครเซี่ยงไฮ้ ซึ่งเป็นศูนย์กลางทางการเงินของจีน ได้ผ่อนปรนการบังคับใช้มาตรการล็อกดาวน์ แต่นายธนาคารหลายรายได้กล่าวต่อสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า ต้องใช้เวลาสักพักกว่าที่ธนาคารจะสามารถสะสางธุรกรรมที่คั่งค้างอยู่แล้วเสร็จ และกลับมาให้บริการด้านธนาคารได้อย่างเต็มรูปแบบ นอกจากนี้ยังมีความวิตกกังวลว่าการกลับมาพุ่งขึ้นอีกครั้งของยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 อาจทำให้รัฐบาลต้องออกมาตรการควบคุมเพื่อสกัดโรคระบาดอีกครั้ง