นางเจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีคลังสหรัฐ ได้เข้าชี้แจงต่อสภาคองเกรสในวันนี้ โดยได้ระบุถึงสาเหตุของเงินเฟ้อ และการดำเนินการของรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาดังกล่าว
ทั้งนี้ ในการเข้าพบคณะกรรมาธิการการเงินประจำวุฒิสภาในวันนี้ นางเยลเลนกล่าวว่า สหรัฐได้เผชิญกับภาวะเงินเฟ้อในระดับสูงอย่างที่ยอมรับไม่ได้ ทำให้มีความจำเป็นในการใช้มาตรการทางการคลังที่เหมาะสมในการสกัดแรงกดดันจากเงินเฟ้อโดยไม่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ
นางเยลเลนกล่าวว่า เงินเฟ้อที่พุ่งสูงดังกล่าวเกิดจากภาวะที่ไม่สมดุลระหว่างอุปสงค์และอุปทาน ซึ่งรวมทั้งความต้องการสินค้าที่พุ่งขึ้นหลังการแพร่ระบาดของโควิด-19 ท่ามกลางภาวะชะงักงันของห่วงโซ่อุปทาน
นอกจากนี้ ราคาอาหารและพลังงานที่ทะยานขึ้นหลังจากที่รัสเซียส่งกำลังทหารบุกโจมตียูเครน ก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่หนุนการปรับตัวขึ้นของเงินเฟ้อ
ขณะเดียวกัน นางเยลเลนได้กล่าวปกป้องมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของประธานาธิบดีโจ ไบเดน หลังจากที่สมาชิกพรรครีพับลิกันบางรายโจมตีว่าเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้นสูงสุดในรอบ 40 ปีมีสาเหตุจากมาตรการ American Rescue Plan (ARP) วงเงิน 1.9 ล้านล้านดอลลาร์ของปธน.ไบเดน
"เราเห็นเงินเฟ้อพุ่งสูงขึ้นในบรรดาประเทศที่พัฒนาแล้วเกือบทุกประเทศทั่วโลก ซึ่งพวกเขาก็มีการใช้นโยบายการคลังที่แตกต่างกัน ดังนั้น จึงเป็นไปไม่ได้ที่เงินเฟ้อที่พุ่งขึ้นในสหรัฐมีสาเหตุจาก ARP" นางเยลเลนกล่าว
นางเยลเลนระบุว่า การแก้ไขภาวะเงินเฟ้อยังคงเป็นเป้าหมายหลักของปธน.ไบเดน ขณะที่กฎหมายด้านสังคมและสิ่งแวดล้อมที่ปธน.ไบเดนเสนอเข้าสู่สภาคองเกรสจะช่วยลดค่าใช้จ่ายของชาวอเมริกัน ซึ่งรวมถึงข้อเสนอในการใช้พลังงานสะอาดและการจ่ายยาตามใบสั่งแพทย์