สหภาพยุโรป (EU) ออกข้อตกลงให้โทรศัพท์มือถือ, แท็บเล็ต, เครื่องอ่านอีบุ๊ก, กล้อง และอุปกรณ์อื่น ๆ ทั้งหมดที่จำหน่ายใน EU จะต้องสามารถใช้ที่ชาร์จร่วมกันได้ภายในปี 2567
ทั้งนี้ ข้อตกลงดังกล่าวส่งผลกระทบต่อบริษัทแอปเปิลเป็นพิเศษ เนื่องจากแอปเปิลใช้ที่ชาร์จแบบ Lighting ขณะที่อุปกรณ์ส่วนใหญ่ใช้ USB-C
-- ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (CDC) ของสหรัฐประกาศยกระดับเตือนภัยการแพร่ระบาดของโรคฝีดาษลิง หลังพบว่าจำนวนผู้ติดเชื้อทั่วโลกพุ่งขึ้นมากกว่า 1,000 ราย
-- ธนาคารโลกออกรายงานแนวโน้มเศรษฐกิจโลกในวันอังคาร (7 มิ.ย.) โดยได้ปรับลดตัวเลขคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกในปีนี้สู่ระดับ 2.9% จากเดิมที่ระดับ 4.1% โดยได้รับผลกระทบจากการที่รัสเซียส่งกำลังทหารบุกโจมตียูเครน ซึ่งได้ซ้ำเติมความเสียหายที่เกิดจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
นายเดวิด มัลพาสส์ ประธานธนาคารโลกกล่าวว่า เศรษฐกิจโลกได้รับผลกระทบจากการทำสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครน, การที่จีนใช้มาตรการล็อกดาวน์เพื่อสกัดการแพร่ระบาดของโควิด-19, ภาวะชะงักงันของห่วงโซ่อุปทาน รวมทั้งความเสี่ยงของการเกิดภาวะ stagflation
-- นางเจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีคลังสหรัฐ ได้เข้าชี้แจงต่อสภาคองเกรสในวันอังคาร (7 มิ.ย.) โดยกล่าวปกป้องมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของประธานาธิบดีโจ ไบเดน หลังจากที่สมาชิกพรรครีพับลิกันบางรายโจมตีว่าเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้นสูงสุดในรอบ 40 ปีมีสาเหตุจากมาตรการ American Rescue Plan (ARP) วงเงิน 1.9 ล้านล้านดอลลาร์ของปธน.ไบเดน
-- นายเซอร์เก ชอยกู รัฐมนตรีกลาโหมรัสเซียกล่าวว่า ท่าเรือของยูเครนในเมืองมาริอูโพลและเมืองเบิร์ดยานสค์ ได้รับการเคลียร์ทุ่นระเบิดแล้ว และพร้อมสำหรับการส่งออกธัญพืช
ที่ผ่านมา องค์การสหประชาชาติได้ทำการประสานงานระหว่างรัสเซียและยูเครนเพื่อให้มีการส่งออกธัญพืชจากท่าเรือของยูเครน ขณะที่ตุรกีส่งเรือนำร่องเพื่อคุ้มกันเรือสินค้าออกสู่ทะเลดำ หลังจากที่การส่งออกสินค้าเกษตรจากยูเครนได้หยุดชะงักลงจากการที่รัสเซียส่งกำลังทหารบุกโจมตียูเครนในเดือนก.พ. จนส่งผลให้ราคาธัญพืชพุ่งขึ้นทั่วโลก
-- ประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครนกล่าวเมื่อวันอังคาร (7 มิ.ย.) ว่า ยูเครนจะไม่ยอมให้เกิดสถานการณ์ที่ต่างฝ่ายต่างเอาชนะกันไม่ได้ และจะมุ่งยึดคืนพื้นที่ทั้งหมดที่รัสเซียเข้ายึดครอง
นอกจากนี้ ปธน.เซเลนสกียังกล่าวว่า เขามีความยินดีมากจากการที่นายบอริส จอห์นสัน ยังคงเป็นนายกรัฐมนตรีอังกฤษ หลังจากรอดพ้นมติไม่ไว้วางใจในพรรคอนุรักษ์นิยมวานนี้
-- ทาร์เก็ต ซึ่งเป็นบริษัทค้าปลีกรายใหญ่ของสหรัฐ ประกาศปรับลดอัตรากำไรจากการดำเนินงานสู่ระดับ 2% ในไตรมาส 2 จากเดิมคาดการณ์ว่าจะใกล้เคียงไตรมาสแรกที่ระดับ 5.3%
นอกจากนี้ ทาร์เก็ตยังประกาศมาตรการในการลดสต็อกในคลังสินค้าที่ไม่จำเป็น โดยมีการยกเลิกคำสั่งซื้อสินค้า หลังมีการเปิดเผยมูลค่าสต็อกสินค้าสูงถึง 1.5 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนเม.ย. ซึ่งสูงกว่าช่วงเดียวกันของปีที่แล้วถึง 43%
-- ข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญที่เปิดเผยในวันนี้ เกาหลีใต้เปิดเผยผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 1/2565 (ประมาณการครั้งสุดท้าย), ญี่ปุ่นเปิดเผยผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 1/2565 (ประมาณการครั้งสุดท้าย) และดุลบัญชีเดินสะพัดเดือนเม.ย., ออสเตรเลียเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจเดือนพ.ค.จากเนชันแนล ออสเตรเลีย แบงก์ (NAB), ธนาคารกลางอินเดียประชุมนโยบายการเงินและแถลงมติอัตราดอกเบี้ย, อังกฤษเปิดเผยดัชนีราคาบ้านเดือนพ.ค.จากฮาลิแฟกซ์, เยอรมนีเปิดเผยการผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนเม.ย., ฝรั่งเศสเปิดเผยดุลการค้าเดือนเม.ย., อียูเปิดเผยผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 1/2565 (ประมาณการครั้งสุดท้าย), สหรัฐเปิดเผยสต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งเดือนเม.ย. และสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์จากสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA)