นายแอนโทนี อัลบาเนซี นายกรัฐมนตรีออสเตรเลียเปิดเผยว่า รัฐบาลออสเตรเลียจะพิจารณาการใช้นโยบายใหม่ ๆ เพื่อรับมือกับแรงกดดันที่เกิดจากการพุ่งขึ้นของเงินเฟ้อและอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น หลังจากธนาคารกลางออสเตรเลีย (RBA) ประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2543
นายอัลบาเนซีกล่าวกับผู้สื่อข่าวที่ทำเนียบนายกรัฐมนตรีว่า "แม้ว่าการปรับขึ้นดอกเบี้ยเป็นสิ่งที่เราคาดการณ์ไว้แล้วว่าจะเกิดขึ้น แต่ก็ส่งผลกระทบต่อภาคครัวเรือน เราต่างก็ทราบดีว่าประชาชนกำลังเดือดร้อนจากวิกฤตค่าครองชีพ เนื่องจากราคาทุกอย่างปรับตัวสูงขึ้นยกเว้นค่าจ้าง ด้วยเหตุนี้รัฐบาลจึงมีแผนที่จะใช้นโยบายต่าง ๆ เพื่อช่วยเหลือการเลี้ยงดูบุตร และเพิ่มศักยภาพด้านการผลิต ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะสามารถรับมือกับปัญหาได้"
ทั้งนี้ RBA ประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.50% สู่ระดับ 0.85% ในการประชุมเมื่อวานนี้ ซึ่งมากกว่าที่ตลาดคาดการณ์ว่า RBA จะปรับขึ้นดอกเบี้ยราว 0.25% หรือ 0.40% ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า RBA จะปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้นอีกหลายครั้งในปีนี้จนถึงปีหน้า เพื่อควบคุมปัญหาเงินเฟ้อ
นายอัลบาเนซี หัวหน้าพรรคแรงงานออสเตรเลีย (ALP) ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้าน ได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งและเข้าพิธีสาบานตนรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 31 ของออสเตรเลียเมื่อวันที่ 23 พ.ค.ที่ผ่านมา โดยเขาให้คำมั่นสัญญาว่าจะปรับขึ้นค่าจ้าง และทำให้ค่าไฟฟ้าลดลงด้วยการสนับสนุนให้ใช้พลังงานทดแทน
อย่างไรก็ดี เพียง 2 สัปดาห์หลังจากที่นายอัลบาเนซีเข้ารับตำแหน่ง รัฐบาลชุดใหม่ก็ต้องเผชิญกับวิกฤตพลังงานที่เหนือความคาดหมาย อันเนื่องมาจากสภาพอากาศที่หนาวเย็นกว่าปกติ และคลังสำรองก๊าซในประเทศที่ลดน้อยลง ซึ่งเป็นเหตุให้ราคาสินค้าต่าง ๆ ปรับตัวสูงขึ้นสำหรับบริษัทเอกชนและภาคครัวเรือน