นายมาร์โค โคลาโนวิค หัวหน้านักวิเคราะห์ตลาดโลกของบริษัทเจพีมอร์แกนคาดการณ์ว่า ราคาน้ำมันมีแนวโน้มพุ่งขึ้นสูงถึงระดับ 150 ดอลลาร์/บาร์เรล แต่เขาเชื่อว่าเศรษฐกิจสหรัฐมีความแข็งแกร่งมากพอที่จะรับมือกับราคาน้ำมันที่สูงขนาดนั้นได้
"มีความเป็นไปได้ที่ราคาน้ำมันจะสูงขึ้นถึงระดับนั้น เมื่อพิจารณาจากสถานการณ์ในยุโรป รวมทั้งการทำสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครน แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้เราประหลาดใจ เพราะเราเชื่อว่าการพุ่งขึ้นของราคาน้ำมันจะเกิดขึ้นในช่วงเวลาสั้น ๆ เท่านั้น และท้ายที่สุดแล้วราคาจะกลับสู่ระดับปกติ" นายโคลาโนวิคเปิดเผยในรายการ "Fast Money" ของสถานีโทรทัศน์ซีเอ็นบีซี
ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) พุ่งขึ้นเกือบ 8% ปิดที่ระดับ 119.41 ดอลลาร์/บาร์เรลเมื่อวันอังคาร (7 มิ.ย.) ซึ่งเป็นระดับสูงในรอบ 3 เดือน โดยได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า ความต้องการน้ำมันในจีนจะเพิ่มขึ้นหลังจากยุติการใช้มาตรการล็อกดาวน์ในนครเซี่ยงไฮ้
"หากมองย้อนไปในช่วงที่ราคาน้ำมันอยู่ที่ 130-135 ดอลลาร์/บาร์เรลในปี 2553-2557 ช่วงเวลานั้นผู้บริโภคสามารถรับมือกับราคาน้ำมันได้ ซึ่งทำให้เราคิดว่าผู้บริโภคก็จะสามารถปรับตัวรับมือกับสถานการณ์ราคาน้ำมันในขณะนี้ได้เช่นกัน" นายโคลาโนวิคกล่าว
ทั้งนี้ นายโคลาโนวิคได้รับการจัดอันดับจากกลุ่มนักลงทุนสถาบัน (Institutional Investor) ว่า เป็นผู้ที่สามารถวิเคราะห์สถานการณ์ได้อย่างแม่นยำที่สุดเป็นเวลาหลายปีติดต่อกัน
นายโคลาโนวิควิเคราะห์ว่า เศรษฐกิจสหรัฐและเศรษฐกิจทั่วโลกจะสามารถหลีกเลี่ยงภาวะถดถอยได้ ซึ่งต่างกับที่นายเจมี ไดมอน ซีอีโอของเจพีมอร์แกนที่เตือนให้นักลงทุนเตรียมพร้อมรับมือกับวิกฤตเศรษฐกิจที่โหมกระหน่ำรุนแรงไม่ต่างจากพายุเฮอริเคน
อย่างไรก็ดี นายโคลาโนวิคกล่าวว่า การเตรียมตัวให้พร้อมรับมือกับทุกสถานการณ์ถือเป็นเรื่องจำเป็น เพราะไม่มีใครรับประกันได้ว่าปัญหาจะไม่เกิดขึ้น