บิตคอยน์ร่วงลงต่ำกว่าระดับ 29,000 ดอลลาร์ ใกล้หลุด 1,000,000 บาทในวันนี้ หลังสหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ที่สูงเกินคาด ซึ่งอาจทำให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมสัปดาห์หน้าเพื่อสกัดเงินเฟ้อ
ณ เวลา 00.18 น.ตามเวลาไทย บิตคอยน์ร่วงลง 3.55% สู่ระดับ 28,918.50 ดอลลาร์ หรือราว 1,004,400.00 บาท ในการซื้อขายบนแพลตฟอร์ม Coinbase
นักวิเคราะห์จากธนาคารบาร์เคลยส์ระบุว่า เฟดมีเหตุผลที่ดีที่จะสร้างความประหลาดใจต่อตลาดในสัปดาห์หน้าด้วยการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสูงกว่าที่คาดไว้ หลังการเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้นในวันนี้
ทั้งนี้ ก่อนที่สหรัฐจะเปิดเผยดัชนี CPI ประจำเดือนพ.ค.ในวันนี้ นักลงทุนคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ทั้งในเดือนมิ.ย.และก.ค.
อย่างไรก็ดี ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 20% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% ในการประชุมวันที่ 14-15 มิ.ย. เพิ่มขึ้นจากเดิมที่ระดับ 5% เมื่อวานนี้
นอกจากนี้ นักลงทุนให้น้ำหนัก 50% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% ในการประชุมวันที่ 26-27 ก.ค. เพิ่มขึ้นจากเดิมที่ระดับ 19% เมื่อวานนี้
ก่อนหน้านี้ เฟดได้เริ่มต้นวงจรปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยด้วยการปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.25% ในเดือนมี.ค. ก่อนที่จะปรับขึ้น 0.50% ในเดือนพ.ค. ขณะที่นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด ส่งสัญญาณว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ทั้งในเดือนมิ.ย.และก.ค.
ทั้งนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนี CPI ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค พุ่งขึ้น 8.6% ในเดือนพ.ค. เมื่อเทียบรายปี ซึ่งเป็นระดับสูงสุดครั้งใหม่ในรอบกว่า 40 ปี หรือนับตั้งแต่ปี 2524 และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 8.3%
ดัชนี CPI ดังกล่าวสูงกว่าระดับ 8.3% ในเดือนเม.ย. และสูงกว่าระดับ 8.5% ที่ทำไว้ในเดือนมี.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค.2524
ขณะเดียวกัน ดัชนี CPI พื้นฐาน ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน พุ่งขึ้น 6.0% ในเดือนพ.ค. เมื่อเทียบรายปี สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 5.9%
นอกจากนี้ เฟดเริ่มใช้มาตรการปรับลดขนาดงบดุล (Quantitative Tightening : QT) ในเดือนมิ.ย. ตามมติในการประชุมนโยบายการเงินเมื่อวันที่ 4 พ.ค. โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย. เฟดจะลดขนาดงบดุลในวงเงิน 4.75 หมื่นล้านดอลลาร์/เดือน และตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย. เฟดจะเพิ่มวงเงินในการลดขนาดงบดุลเป็น 2 เท่า สู่ระดับ 9.5 หมื่นล้านดอลลาร์/เดือน
นักลงทุนกังวลว่าการที่เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยและปรับลดขนาดงบดุลอาจส่งผลให้เศรษฐกิจสหรัฐเผชิญภาวะถดถอย หลังจากที่หดตัว 1.4% ในไตรมาส 1/65