กระทรวงการคลังเกาหลีใต้เปิดเผยในวันนี้ว่า เศรษฐกิจเกาหลีใต้ในปี 2565 มีแนวโน้มขยายตัวช้าที่สุดในรอบ 3 ปี โดยกระทรวงได้ปรับลดคาดการณ์การเติบโตในปีนี้เหลือ 2.6% จากเดิม 3.1% เนื่องจากเผชิญปัญหาซัพพลายหยุดชะงัก อัตราเงินเฟ้อที่พุ่งสูงขึ้น และการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอย่างรวดเร็ว
"เราจะให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับเรื่องการรักษาเสถียรภาพของราคา เนื่องจากนั่นเป็นข้อตกลงร่วมกันของเรา" นายชู คยองโฮ รัฐมนตรีกระทรวงการคลังเกาหลีใต้กล่าว โดยอ้างถึงนายอี ชางยอง ผู้ว่าการธนาคารกลางเกาหลีใต้ (BOK) และผู้กำหนดนโยบายระดับสูงคนอื่น ๆ ที่นายชูได้พบในช่วงเช้าวันนี้
เพื่อช่วยลดแรงกดดันจากภาวะเงินเฟ้อต่อกิจการต่าง ๆ ในเกาหลีใต้ รัฐบาลจึงริเริ่มนโยบายเศรษฐกิจรายการแรกโดยเสนอให้ลดอัตราภาษีนิติบุคคลสูงสุดมาอยู่ที่ 22% ซึ่งเป็นค่าเฉลี่ยของประเทศต่าง ๆ ในองค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (OECD) ขณะที่บริษัทใหญ่ในเกาหลีใต้ประมาณ 100 อันดับแรกต้องจ่ายอัตราภาษีนิติบุคคลอยู่ที่ 25% มาตั้งแต่ปี 2561 โดยรัฐบาล ณ ขณะนั้นปรับขึ้นภาษีนิติบุคคลเพื่อนำมาใช้เป็นสวัสดิการทางสังคมมากขึ้น
กระทรวงฯ กล่าวว่า เศรษฐกิจโลกได้รับผลกระทบจากภาวะคอขวดในด้านซัพพลายเชน ตลอดจนวิกฤตยูเครน อัตราเงินเฟ้อ นโยบายคุมเข้มทางการเงินในประเทศใหญ่ ๆ รวมถึงการล็อกดาวน์ในจีนด้วย
ทั้งนี้ ประธานาธิบดียุน ซอกยอล ได้ให้สัญญาในช่วงหาเสียงว่าจะสนับสนุน "เศรษฐกิจที่ภาคเอกชนหนุนนำ" โดยมาตรการของเขาจะช่วยให้บริษัทต่าง ๆ ในเกาหลีใต้สามารถรับมือกับค่าแรงขั้นต่ำที่สูงขึ้น ต้นทุนการกู้ยืมที่เพิ่มขึ้น ตลอดจนชั่วโมงการทำงานที่ถูกจำกัดระยะเวลาโดยรัฐบาลชุดที่แล้ว