นายอีลอน มัสก์ ซีอีโอของบริษัทเทสลาและสเปซเอ็กซ์ได้ถูกนายคีธ จอห์นสัน นักลงทุนเหรียญดอจคอยน์ยื่นฟ้องต่อศาล เพื่อเรียกร้องค่าเสียหาย 2.58 แสนล้านดอลลาร์ โดยนายจอห์นสันกล่าวหาว่า นายมัสก์ได้สนับสนุนเหรียญดอจคอยน์ด้วยวิธีการทำธุรกิจแบบพีระมิด (pyramid scheme)
นายจอห์นสันได้ยื่นฟ้องต่อศาลรัฐบาลกลางเมืองแมนฮัตตันในวันพฤหัสบดี (16 มิ.ย.) โดยกล่าวหาว่า นายมัสก์พยายามโน้มน้าวให้ผู้คนสนใจเหรียญดอจคอยน์ และปั่นราคาจนสูงขึ้นอย่างมาก และหลังจากนั้นก็ได้ปล่อยให้ราคาเหรียญดอจคอยน์ร่วงลงอย่างรุนแรง
"นายมัสก์ซึ่งเป็นจำเลยนั้นทราบมาตั้งแต่ปี 2562 ว่า ดอจคอยน์ไม่มีมูลค่าใด ๆ แต่จำเลยก็ยังสนับสนุนดอจคอยน์เพื่อที่จะทำกำไรจากการซื้อขาย นอกจากนี้ จำเลยยังใช้สถานะทางสังคมของตนเองในฐานะบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในโลกในการปั่นราคาดอจคอยน์ เพื่อหวังทำกำไรจากการทำธุรกิจแบบพีระมิด" คำฟ้องระบุ
นอกจากนี้ คำฟ้องดังกล่าวยังรวบรวมความคิดเห็นของนายวอร์เรน บัฟเฟตต์ นายบิล เกตส์ และบุคคลอื่น ๆ ที่ออกมาเตือนเรื่องมูลค่าของคริปโทเคอร์เรนซี โดยเฉพาะนายเกตส์ซึ่งแสดงความเห็นเมื่อเร็ว ๆ นี้ว่า คริปโทเคอร์เรนซี และ NFT (Non-Fungible Tokens) เป็นสิ่งหลอกลวงและอยู่บนพื้นฐานของทฤษฎีที่โง่เขลา
นายจอห์นสันเรียกร้องค่าเสียหายเป็นเงิน 8.6 หมื่นล้านดอลลาร์ จากกรณีที่มูลค่าตลาดของเหรียญดอจคอยน์ทรุดตัวลงนับตั้งแต่เดือนพ.ค. 2564 และค่าเสียหายจากกรณีอื่น ๆ ด้วยรวมเป็นเงิน 2.58 แสนล้านดอลลาร์
ทั้งนี้ ดอจคอยน์เป็นเหรียญดิจิทัลที่ใช้รูปของสุนัขชื่อดอจ (Doge) ที่เป็นอินเทอร์เน็ตมีมของสุนัขญี่ปุ่นพันธุ์ชิบะอินุ และเป็นเหรียญที่นายมัสก์ชื่นชอบ โดยก่อนหน้านี้เหรียญดอจคอยน์ถูกสร้างขึ้นด้วยจุดประสงค์เพื่อเป็นแค่มุกตลก ก่อนที่เหรียญดังกล่าวจะถูกนายมัสก์ปั่นมูลค่าให้พุ่งทะยานขึ้น