จับตาธนาคารกลางจีนประกาศอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้าชั้นดี (LPR) ประเภท 5 ปี และ 1 ปีในช่วงเช้าวันนี้ เพื่อประเมินว่าจีนมีแนวโน้มที่จะดำเนินนโยบายการเงินตามทิศทางธนาคารกลางอื่น ๆ ทั่วโลกที่เริ่มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยหรือไม่
ส่วนเมื่อวันที่ 20 พ.ค.ที่ผ่านมา ธนาคารกลางจีนปรับลดอัตราดอกเบี้ย LPR ประเภท 5 ปี ลง 0.15% สู่ระดับ 4.45% จากระดับ 4.6% ซึ่งเป็นการปรับลดครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่ปี 2562 และมากกว่าที่นักวิเคราะห์ในโพลสำรวจของสำนักข่าวบลูมเบิร์กคาดการณ์ไว้ว่าจะปรับลดลงเพียง 0.10%
-- ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวผันผวนในช่วงเช้านี้ เนื่องจากนักลงทุนยังคงกังวลว่าเศรษฐกิจโลกอาจจะเข้าสู่ภาวะถดถอย หลังจากธนาคารกลางหลายแห่งพากันปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ
ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด), ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) , ธนาคารกลางสวิตเซอร์แลนด์ รวมทั้งธนาคารกลางฮังการี บราซิล ไต้หวัน ฮ่องกง และอาร์เจนตินา ต่างก็ประกาศปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในสัปดาห์ที่แล้ว
-- นักลงทุนจับตานายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งมีกำหนดแถลงนโยบายการเงินและภาวะเศรษฐกิจสหรัฐรอบครึ่งปีต่อคณะกรรมาธิการการธนาคารประจำวุฒิสภาในวันพุธที่ 22 มิ.ย. และแถลงต่อคณะกรรมาธิการบริการการเงินประจำสภาผู้แทนราษฎรในวันพฤหัสบดีที่ 23 มิ.ย.นี้
ก่อนการกล่าวถ้อยแถลงดังกล่าว เฟดได้ส่งรายงานนโยบายการเงินรอบครึ่งปีต่อสภาคองเกรส โดยระบุว่า "คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) มีความมุ่งมั่น 'อย่างไม่มีเงื่อนไข' ในการรักษาเสถียรภาพของราคา ซึ่งเป็นสิ่งที่มีความจำเป็นต่อการรักษาตลาดแรงงานที่แข็งแกร่ง" เฟดระบุในรายงาน
ทั้งนี้ การใช้คำว่า "อย่างไม่มีเงื่อนไข" ในรายงานดังกล่าว บ่งชี้ว่าเฟดพร้อมรับความเสี่ยงต่างๆที่อาจเกิดขึ้น เพื่อให้เศรษฐกิจสามารถหลีกเลี่ยงสถานการณ์ที่เลวร้ายกว่าจากการที่เงินเฟ้อไม่สามารถควบคุมได้จนทำให้เศรษฐกิจเกิดความเสียหายในระยะยาว
-- ราคาบิตคอยน์ดีดตัวขึ้นเหนือระดับ 20,000 ดอลลาร์ช่วงเช้านี้ หลังจากที่ร่วงหลุดจากระดับดังกล่าวเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (18 มิ.ย.) ซึ่งเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนธ.ค. 2563 อย่างไรก็ดี ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าราคาบิตคอยน์ยังคงผันผวนในขณะนี้
ณ เวลา 06.55 น.ตามเวลาไทย ราคาบิตคอยน์ดีดตัวขึ้น 7.85% แตะที่ 20,471.82 ดอลลาร์
แอนดรูว์ เบรนเนอร์ นักวิเคราะห์จากบริษัทเนชันแนล อัลลิอันซ์ ซิเคียวริตีส์ กล่าวว่า นักลงทุนกลุ่มต่าง ๆ ซึ่งรวมถึงนักลงทุนกลุ่มสถาบันและนักลงทุนรายย่อย ต่างก็เข้าช้อนซื้อหลังจากราคาบิตคอยน์ดิ่งลงอย่างหนักในช่วงสุดสัปดาห์
"นักลงทุนบางกลุ่มมองว่า ขณะนี้เป็นโอกาสดีที่จะเข้าช้อนซื้อหลังจากบิตคอยน์ร่วงลงไปถึงจุดที่มีราคาน่าดึงดูดใจ อย่างไรก็ดี บิตคอยน์และสกุลเงินดิทัลอื่น ๆ ยังคงมีราคาที่ผันผวนอย่างมาก" เบนเนอร์กล่าว
-- นางเจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีคลังสหรัฐคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจสหรัฐจะชะลอตัวลงในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า และคาดว่าอัตราเงินเฟ้อจะยังคงอยู่ในระดับสูงตลอดปี 2565 อย่างไรก็ดี นางเยลเลนเชื่อว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะสามารถหลีกเลี่ยงภาวะถดถอยได้
"ดิฉันคาดว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะเผชิญกับภาวะเงินเฟ้อที่สูงตลอดปีนี้ และคาดว่าเศรษฐกิจจะชะลอตัวลง แต่ดิฉันเชื่อว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะสามารถหลีกเลี่ยงภาวะถดถอยได้ เนื่องจากการใช้จ่ายของผู้บริโภคในสหรัฐยังคงแข็งแกร่งมาก" นางเยลเลนให้สัมภาษณ์ในรายการ "This Week" ของสถานีโทรทัศน์เอบีซีเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา
-- ก๊าซพรอม (Gazprom) ยักษ์ใหญ่ด้านพลังงานของรัสเซีย ประกาศระงับการจัดส่งก๊าซผ่านท่อส่งก๊าซเติร์กสตรีม (Turkish Stream) ทั้งสองสาย ตั้งแต่วันที่ 21-28 มิ.ย. เพื่อดำเนินการบำรุงรักษาตามกำหนดประจำปี โดยได้รับอนุมัติจากทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องทั้งหมดล่วงหน้าแล้ว
ท่อส่งก๊าซเติร์กสตรีมตัดผ่านก้นทะเลดำและประกอบด้วยท่อสองสาย โดยสายหนึ่งจัดส่งก๊าซให้กับผู้บริโภคชาวตุรกี และอีกสายหนึ่งจัดส่งพลังงานไปยังประเทศต่าง ๆ ในยุโรปตอนใต้และตะวันออกเฉียงใต้ หลังเริ่มดำเนินงานเมื่อเดือนมกราคม 2563 ด้วยกำลังจัดส่งรวม 3.15 หมื่นล้านลูกบาศก์เมตรต่อปี
-- -Conference Board บริษัทวิจัยธุรกิจเปิดเผยผลสำรวจครั้งใหม่บ่งชี้ว่า ซีอีโอส่วนใหญ่ทั่วโลกคาดว่า เศรษฐกิจจะเข้าสู่ภาวะถดถอยหรือถดถอยแล้ว ซึ่งสะท้อนถึงมุมมองของบรรดาผู้นำธุรกิจที่ว่า แนวโน้มเศรษฐกิจจะซบเซามากขึ้น ขณะที่เงินเฟ้อยังคงพุ่งขึ้น
ผลสำรวจบ่งชี้ว่า ซีอีโอมากกว่า 60% คาดว่า เศรษฐกิจจะถดถอยในช่วง 12-18 เดือนข้างหน้า ซึ่งเพิ่มขึ้นอย่างมากจากสิ้นปี 2564 ที่มีซีอีโอเพียง 22% ที่คาดว่า เศรษฐกิจจะถดถอย
ทั้งนี้ มีซีอีโอราว 15% ที่เชื่อว่า เศรษฐกิจในภูมิภาคของพวกเขาได้เข้าสู่ภาวะถดถอยแล้ว
"ซีอีโอและผู้บริหารระดับสูงคนอื่น ๆ มองว่า สงครามรัสเซีย-ยูเครนทำให้เกิดภาวะเงินเฟ้อผ่านทางความผันผวนของราคาพลังงาน และต้นทุนที่สูงขึ้นสำหรับปัจจัยการผลิตที่ขาดแคลน ซึ่งทำให้เกิดความวิตกเกี่ยวกับผลกำไรทางธุรกิจที่ลดลง" ผลสำรวจระบุ
-- นักเศรษฐศาสตร์ของแบงก์ออฟอเมริกา ซีเคียวริตีส์ (BofAS) คาดว่า มีโอกาสราว 40% ที่เศรษฐกิจสหรัฐจะเข้าสู่ภาวะถดถอยในปีหน้า ขณะที่อัตราเงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับสูงอย่างต่อเนื่อง
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า BofAS เปิดเผยรายงานวิจัยในวันศุกร์ (17 มิ.ย.) คาดว่า การขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของสหรัฐจะชะลอลงสู่ระดับเกือบ 0% ภายในช่วงครึ่งหลังของปีหน้า เนื่องจากผลกระทบของภาวะการเงินที่ตึงตัวจะทำให้เศรษฐกิจชะลอตัวลง และคาดว่าการขยายตัวของเศรษฐกิจจะดีดตัวขึ้นเพียงเล็กน้อยในปี 2567