คณะผู้แทนจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) เดินทางถึงศรีลังกาแล้วเพื่อเจรจาเกี่ยวกับโครงการเงินช่วยเหลือ แต่เวลาของประเทศเหลือน้อยเพราะน้ำมันจะหมดในอีกไม่กี่วัน และคาดว่ากว่าจะได้รับเงินช่วยเหลือก็นานอีกหลายเดือน
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ศรีลังกากำลังเผชิญกับวิกฤตเศรษฐกิจครั้งเลวร้ายที่สุดในรอบ 70 ปี เนื่องจากการจัดการที่ผิดพลาดทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่องหลายทศวรรษและข้อผิดพลาดด้านนโยบาย รวมถึงผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ต่อการท่องเที่ยวและการส่งเงินกลับประเทศ ซึ่งส่งผลให้ทุนสำรองระหว่างประเทศปรับตัวลดลงสู่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์
ศรีลังกาซึ่งมีประชากร 22 ล้านคน ประกาศพักชำระหนี้จำนวน 1.2 หมื่นล้านดอลลาร์เมื่อเดือนเม.ย. ขณะที่องค์การสหประชาชาติ (UN) ได้ออกมาเตือนถึงอัตราเงินเฟ้อที่พุ่งสูงขึ้น ค่าเงินที่ลดลง และการขาดแคลนเชื้อเพลิง อาหาร และยารักษาโรค ซึ่งอาจนำไปสู่วิกฤตด้านมนุษยธรรม
คณะผู้แทน IMF ซึ่งมีกำหนดการเดินทางเยือนกรุงโคลัมโบจนถึงวันที่ 30 มิ.ย. จะเดินหน้าหารือเกี่ยวกับโครงการเงินช่วยเหลือครั้งที่ 17 ของศรีลังกา
IMF ระบุว่า "เราขอยืนยันอีกครั้งถึงความมุ่งมั่นของเราที่จะสนับสนุนศรีลังกาในช่วงเวลาที่ยากลำบากเช่นนี้ ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของ IMF"
ทั้งนี้ ศรีลังกาหวังว่าการเดินทางเยือนของ IMF ซึ่งเป็นช่วงเวลาเดียวกับการเจรจาปรับโครงสร้างหนี้ จะบรรลุข้อตกลงระดับเจ้าหน้าที่อย่างรวดเร็วและเร่งรัดกระบวนการให้เงินของคณะกรรมการ IMF
อย่างไรก็ดี โดยปกติแล้วกระบวนการดังกล่าวจะใช้เวลาหลายเดือน ขณะที่ศรีลังกาเสี่ยงเผชิญกับปัญหาการขาดแคลนและความไม่สงบทางการเมืองเพิ่มขึ้น