"โกลด์แมนแซคส์" เตือนมีโอกาสสูงขึ้นที่ศก.สหรัฐจะถดถอย หลังเฟดเร่งขึ้นดบ.

ทีมนักวิเคราะห์ของบริษัทโกลด์แมน แซคส์ ซึ่งนำโดยนายแจน แฮตซิอุสเตือนว่า มีความเป็นไปได้มากขึ้นที่เศรษฐกิจสหรัฐจะเข้าสู่ภาวะถดถอย โดยสาเหตุส่วนใหญ่มาจากผลกระทบของการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วขึ้นและรุนแรงขึ้นเพื่อสกัดเงินเฟ้อ

ทั้งนี้ โกลด์แมน แซคส์คาดว่า ขณะนี้มีโอกาสถึง 30% ที่เศรษฐกิจสหรัฐจะเข้าสู่ภาวะถดถอยในปี 2566 ซึ่งเพิ่มขึ้นจากก่อนหน้านี้ที่คาดว่ามีโอกาสเพียง 15% และมีโอกาส 25% ที่เศรษฐกิจจะเข้าสู่ภาวะถอยในปี 2567 หากเศรษฐกิจรอดพ้นจากการถดถอยในปี 2566 ซึ่งการคาดการณ์ดังกล่าวหมายความว่า มีโอกาส 48% ที่เศรษฐกิจจะถดถอยในอีก 2 ปีข้างหน้า เมื่อเทียบกับตัวเลขคาดการณ์ก่อนหน้านี้ที่ระดับ 35%

"ขณะนี้เรามองว่าความเสี่ยงที่เศรษฐกิจสหรัฐจะเข้าสู่ภาวะถดถอยนั้นมีมากขึ้นและใกล้เข้ามามากขึ้น โดยสาเหตุหลักคือความวิตกกังวลที่เพิ่มขึ้นว่า เฟดจะใช้นโยบายคุมเข้มด้านการเงินในระดับที่รุนแรงขึ้นเพื่อสกัดเงินเฟ้อ หากราคาพลังงานพุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าการดำเนินนโยบายดังกล่าวจะทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจชะลอตัวลงอย่างมากก็ตาม" ทีมนักวิเคราะห์ของโกลด์แมน แซคส์กล่าว

นักวิเคราะห์ของโกลด์แมน แซคส์ได้คงคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐในไตรมาส 2/2565 ไว้ที่ 2.8% แต่ได้ปรับลดตัวเลขคาดการณ์ในไตรมาส 3/2565 ลงเหลือ 1.75%, ลดคาดการณ์ตัวเลขในไตรมาส 4/2565 ลงเหลือ 0.75% และลดคาดการณ์ตัวเลขในไตรมาส 1/2566 ลงเหลือ 1%

คณะกรรมการเฟดประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% สู่ระดับ 1.50-1.75% ในการประชุมเมื่อวันที่ 15 มิ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 28 ปี ขณะที่นายเจอโรม พาวเวล ส่งสัญญาณชัดเจนว่า เฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ยอีก 0.75% ในการประชุมเดือนก.ค. เพื่อสกัดเงินเฟ้อ