กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) เปิดเผยคาดการณ์ในวันศุกร์ (24 มิ.ย.) ว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของสหรัฐจะขยายตัว 2.9% ในปีนี้ ซึ่งลดลงจากที่เคยคาดการณ์ไว้ครั้งล่าสุดในเดือนเม.ย.ที่ผ่านมาว่าจะขยายตัว 3.7%
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า IMF ได้ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐ เนื่องจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ทำให้อุปสงค์ชะลอตัวลง แต่ก็คาดว่า สหรัฐจะหลีกเลี่ยงภาวะเศรษฐกิจถดถอยได้อย่างเฉียดฉิว
ส่วนในปี 2566 นั้น IMF คาดว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะขยายตัว 1.7% ลดลงจากเดิมที่คาดไว้ที่ 2.3% และคาดว่า จีดีพีปี 2567 จะขยายตัวเพียง 0.8%
ในเดือนต.ค.ปีที่แล้วนั้น IMF คาดว่า เศรษฐกิจสหรัฐจะขยายตัว 5.2% ในปีนี้ แต่นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่และภาวะชะงักงันด้านห่วงโซ่อุปทานทำให้เศรษฐกิจชะลอการฟื้นตัว
นอกจากนี้ การพุ่งขึ้นอย่างมากของราคาเชื้อเพลิงและอาหารซึ่งเป็นผลจากการที่รัสเซียทำสงครามในยูเครนนั้น ได้ทำให้เงินเฟ้อพุ่งขึ้นสูงสุดในรอบ 40 ปี