สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ผลสำรวจล่าสุดแสดงให้เห็นว่า มีบริษัทญี่ปุ่นที่ดำเนินงานในรัสเซียไม่ถึง 3% ที่ตัดสินใจถอนตัวออกจากรัสเซียหลังรัสเซียทำการรุกรานยูเครน ซึ่งถือเป็นสัดส่วนที่น้อยที่สุดในกลุ่มประเทศ G7
บริษัทเตโกกุ ดาต้าแบงก์ จำกัด ได้ทำการวิเคราะห์ข้อมูลโดยอ้างอิงผลสำรวจที่จัดทำโดยวิทยาลัยการจัดการของเยลในสหรัฐ ซึ่งครอบคลุมบริษัทใหญ่กว่า 1,300 แห่งทั่วโลก โดยการวิเคราะห์แสดงให้เห็นว่า มีบริษัทญี่ปุ่นจำนวนมากระวังการถอนตัวออกจากรัสเซีย โดยหลายบริษัทเพียงหยุดดำเนินงานเป็นการชั่วคราวเพื่อหวังว่าจะกลับมาทำธุรกิจได้อีกครั้งในอนาคต
รายงานระบุว่า จากบริษัทญี่ปุ่น 168 แห่งที่ดำเนินงานในรัสเซีย มีบริษัทญี่ปุ่นเพียง 4 แห่งหรือคิดเป็น 2.4% เท่านั้นที่ได้ตัดสินใจหยุดทำธุรกิจในรัสเซียภายในวันที่ 19 มิ.ย.
ทั้งนี้ ตัวเลขดังกล่าวห่างไกลกับบริษัทอังกฤษ 48% ที่ประกาศถอนตัวจากรัสเซีย ตามด้วยบริษัทจากแคนาดาที่ถอนตัวไป 33% และบริษัทสหรัฐถอนตัวไป 29%
เจ้าหน้าที่ของเตโกกุ ดาต้าแบงก์ระบุว่า การที่สัดส่วนบริษัทญี่ปุ่นที่ถอนตัวออกจากรัสเซียแตกต่างกับประเทศอื่นเพราะบริษัทญี่ปุ่นไม่ได้กำหนดแผนการถอนตัวอย่างละเอียดไว้ล่วงหน้า
ทั้งนี้ บริษัทญี่ปุ่น 74 แห่ง หรือ 40% ได้ตัดสินใจหยุดหรือระงับการดำเนินการในรัสเซียชั่วคราว ซึ่งรวมถึงบริษัทที่ตัดสินใจระงับการดำเนินการผลิต การดำเนินการ หรือการทำธุรกรรมชั่วคราว เช่น หยุดการขนส่งและรับคำสั่งซื้อ