กลุ่มผู้เจรจาของสหภาพยุโรป (EU) ได้บรรลุข้อตกลงชั่วคราวที่จะออกกฎต่อต้านการฟอกเงินสำหรับคริปโทเคอร์เรนซี เพื่อกระตุ้นให้บริษัทคริปโทฯ ต้องตรวจสอบตัวตนของลูกค้า ซึ่งนับเป็นการคุมเข้มด้านการกำกับดูแลภาคคริปโทฯ ครั้งล่าสุด
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า รัฐสภาและสภายุโรปแถลงในวันพุธ (29 มิ.ย.) ว่า กฎดังกล่าวจะกำหนดให้บริษัทคริปโทฯ ต้องรายงานธุรกรรมที่น่าสงสัยต่อหน่วยงานกำกับดูแลเพื่อช่วยปราบปรามเงินผิดกฎหมาย
แถลงการณ์ระบุว่า กฎต่าง ๆ จะต้องได้รับการอนุมัติจากหลายหน่วยงานก่อนจึงจะมีผลบังคับใช้ โดยการกำกับดูแลจะช่วยให้มั่นใจได้ว่า สินทรัพย์คริปโทฯ นั้น สามารถติดตามตรวจสอบได้ในลักษณะเดียวกับการโอนเงินแบบดั้งเดิม
เออร์เนสต์ อูร์ตาซุน สมาชิกสภานิติบัญญัติของพรรคกรีนจากประเทศสเปน ผู้ช่วยเดินเรื่องมาตรการผ่านรัฐสภายุโรปกล่าวว่า "กฎใหม่นี้จะช่วยให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถเชื่อมโยงการโอนคริปโทฯ กับการก่ออาชญากรรม และระบุตัวตนที่แท้จริงของผู้อยู่เบื้องหลังธุรกรรมเหล่านั้นได้"
รัฐสภาและสภายุโรประบุว่า กฎดังกล่าวจะครอบคลุมวอลเล็ตคริปโทฯ 'ที่ไม่มีโฮสต์' ซึ่งถือโดยบุคคลและไม่ได้รับการจัดการโดยแพลตฟอร์มซื้อขายคริปโทฯ ที่มีใบอนุญาต สำหรับธุรกรรมที่เกิน 1,000 ยูโร (1,044.20 ดอลลาร์) ที่ทำกับผู้ให้บริการต่าง ๆ
อย่างไรก็ดี บริษัทคอยน์เบส โกลบอล อิงค์ ผู้ให้บริการแพลตฟอร์มซื้อขายสกุลเงินดิจิทัลจากสหรัฐคัดค้านกฎดังกล่าว โดยกลุ่มธุรกิจคริปโทฯ ได้ส่งจดหมายถึงรัฐมนตรีกระทรวงการคลังของ EU ทั้ง 27 คนเมื่อวันที่ 13 เม.ย. ขอให้ผู้กำหนดนโยบายตรวจสอบให้แน่ใจว่า กฎระเบียบเหล่านี้ไม่ได้อยู่นอกเหนือกฎที่มีอยู่ภายใต้คณะทำงานเฉพาะกิจเพื่อดำเนินมาตรการทางการเงิน (Financial Action Task Force) หรือ FATF ซึ่งกำหนดมาตรฐานสำหรับการต่อต้านการฟอกเงิน
อนึ่ง ภาคคริปโทฯ ที่มีมูลค่าสูงถึง 2.1 ล้านล้านดอลลาร์นั้น ยังคงมีกฎระเบียบบังคับใช้ที่แตกต่างกันไปตามแต่ละประเทศทั่วโลก