ทีมนักวิเคราะห์ของดอยซ์แบงก์ซึ่งรวมถึงมาริยง ลาบูร์ และกาลินา พอซเนียโควา คาดการณ์ว่า ราคาบิตคอยน์อาจจะดีดขึ้นแตะระดับสูงถึง 28,000 ดอลลาร์ภายในสิ้นปีนี้ เมื่อพิจารณาจากการซื้อขายบิตคอยน์ที่มีความเชื่อมโยงกับตลาดหุ้นสหรัฐจนถึงขณะนี้
ราคาบิตคอยน์ทรุดตัวลงอย่างหนักในปีนี้ เนื่องจากนักลงทุนลดการถือครองสินทรัพย์เสี่ยงท่ามกลางความวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาเงินเฟ้อและการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางต่าง ๆ ขณะที่นักวิเคราะห์ของดอยซ์แบงก์ระบุว่า มีสัญญาณบ่งชี้ว่า ราคาบิตคอยน์จะฟื้นตัวขึ้นมากกว่า 30% จากระดับราว 20,000 ดอลลาร์ในวันพุธนี้ (29 มิ.ย.) แม้จะยังไม่สามารถปรับตัวขึ้นได้ถึงครึ่งหนึ่งของระดับสูงสุดที่เคยทำไว้ในเดือนพ.ย. 2564 ก็ตาม
นักวิเคราะห์ยังกล่าวด้วยว่า นับตั้งแต่เดือนพ.ย.ปีที่แล้ว ราคาคริปโทเคอร์เรนซีปรับตัวตามทิศทางดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐ โดยเฉพาะดัชนี Nasdaq100 และ S&P500 อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์เชื่อว่า ภายในสิ้นปีนี้ ดัชนี S&P500 จะฟื้นตัวขึ้นแตะระดับเดียวกับในเดือนม.ค. และราคาบิตคอยน์ก็อาจจะปรับตัวขึ้นตามไปด้วย
"สกุลเงินดิจิทัลเปรียบเหมือนกับเพชรมากกว่าทองคำ เพราะเพชรเป็นสินทรัพย์ที่อิงกับตลาดสูงมาก แต่ทองคำเป็นสินค้าโภคภัณฑ์ที่ถือเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยและมีเสถียรภาพ" ลาบูร์และพอซเนียโควาระบุ โดยนักวิเคราะห์ทั้งสองกล่าวถึงบริษัทเดอเบียร์ (De Beers) ซึ่งเป็นผู้ผลิตเพชรรายใหญ่ระดับโลกที่สามารถเปลี่ยนแปลงมุมมองของลูกค้าที่มีต่อเพชรด้วยการใช้โฆษณาเป็นตัวช่วย
"ด้วยการทำตลาดโดยอาศัยแนวคิดมากกว่าตัวผลิตภัณฑ์ เดอเบียร์ได้สร้างรากฐานที่มั่นคงในอุตสาหกรรมเพชรมูลค่า 7.2 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อปี และบริษัทสามารถครองตลาดมาได้ยาวนานถึง 80 ปี เมื่ออุตสาหกรรมเพชรสามารถทำได้จริง สินค้าและการบริการอื่น ๆ ก็สามารถทำได้ด้วยเช่นกัน ซึ่งรวมถึงบิตคอยน์" นักวิเคราะห์ของดอยซ์แบงก์กล่าว