นานา มูรูเกซาน รองประธานฝ่ายต่างประเทศของคอยน์เบส ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มซื้อขายสกุลเงินดิจิทัลใหญ่ที่สุดในสหรัฐ เปิดเผยว่า คอยน์เบสกำลังขอใบอนุญาตทำธุรกิจในหลาย ๆ ประเทศทั่วยุโรป เพื่อขยายธุรกิจนอกสหรัฐ โดยคอยน์เบสมีการทำธุรกิจในสหราชอาณาจักร, ไอร์แลนด์ และเยอรมนีอยู่แล้ว แต่ต้องการเพิ่มฐานการดำเนินงานในสเปน, อิตาลี, ฝรั่งเศส, เนเธอร์แลนด์ และสวิตเซอร์แลนด์ด้วย
นายมูรูเกซาน เปิดเผยว่า คอยน์เบสเพิ่งจ้างพนักงานคนแรกในสวิตเซอร์แลนด์ไป โดยขณะนี้มีแผนจ้างผู้จัดการเพื่อมาดูแลการดำเนินงานในยุโรปโดยเฉพาะ
ด้านแคเทอรีน มินาริค รองประธานฝ่ายกฎหมายของคอยน์เบส เปิดเผยว่า คอยน์เบสกำลังอยู่ระหว่างการเจรจาเพื่อขออนุมัติตามระเบียบป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินในหลาย ๆ ประเทศ รวมถึงฝรั่งเศส โดยคอยน์เบสกำลังเตรียมความพร้อมสำหรับกรอบการทำงานใหม่ในชื่อ "MiCA" ซึ่งเป็นกฎระเบียบที่สหภาพยุโรปหวังใช้กำกับดูแลสินทรัพย์สกุลเงินคริปโทเคอร์เรนซี ซึ่งคณะมนตรียุโรปและรัฐสภายุโรปจะหารือกันวันนี้เพื่อหาข้อตกลงในเรื่องนี้ และหากไม่มีข้อติดขัดแล้ว MiCA น่าจะบังคับใช้ได้ภายในปี 2567 และเมื่อได้รับการอนุมัติแล้ว คอยน์เบสก็จะให้บริการในประเทศสมาชิกสหภาพยุโรปทั้ง 27 ประเทศได้
สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า คอยน์เบสหันไปมองตลาดต่างประเทศเพื่อขับเคลื่อนการทำธุรกิจ ท่ามกลางความกังวลว่าจะเกิดภาวะ "crypto winter" หรือ "ฤดูหนาวคริปโทฯ" ซึ่งเป็นช่วงขาลงของตลาด โดยเมื่อไม่นานมานี้ คอยน์เบสเพิ่งประกาศปลดพนักงานจำนวน 1,100 ตำแหน่ง หรือราว 18% ของพนักงานทั้งหมด เพื่อควบคุมค่าใช้จ่าย
การประกาศปลดพนักงานดังกล่าวมีขึ้นหลังจากที่บิตคอยน์ทรุดตัวลงหนัก ขณะที่ไบแนนซ์ ซึ่งเป็นผู้ให้บริการแพลตฟอร์มซื้อขายคริปโทเคอร์เรนซีรายใหญ่ที่สุดในโลก ประกาศระงับการถอนสกุลเงินบิตคอยน์เป็นการชั่วคราว และเซลเซียส เน็ตเวิร์กส์ ซึ่งเป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มปล่อยกู้คริปโทเคอร์เรนซีรายใหญ่ที่สุดในโลก ประกาศระงับการถอน การแลกเปลี่ยน และการโอนระหว่างบัญชีทั้งหมดเป็นการชั่วคราว เนื่องจากตลาดประสบความผันผวนอย่างหนัก