ตลาดหุ้นเอเชียดีดตัวขึ้นเป็นส่วนใหญ่เช้านี้ โดยปรับตัวตามดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ปิดพุ่งขึ้น 321.83 จุด หรือ +1.05% เมื่อวันศุกร์ (1 ก.ค.) ขณะที่นักลงทุนจับตาการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางมาเลเซียและออสเตรเลียในสัปดาห์นี้
-- ทีมนักวิเคราะห์ของบริษัทเจพีมอร์แกนซึ่งนำโดยนางนาตาชา คาเนวา คาดการณ์ว่า ราคาน้ำมันในตลาดโลกอาจจะพุ่งขึ้นแตะระดับ 380 ดอลลาร์/บาร์เรล หากมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐและยุโรปบีบให้รัสเซียตอบโต้ด้วยการลดกำลังการผลิตน้ำมันดิบ
กลุ่มประเทศ G7 กำลังพัฒนากลไกในการจำกัดราคาน้ำมันรัสเซีย เพื่อกดดันให้รัสเซียขาดแคลนรายได้ที่จะนำมาสนับสนุนการสู้รบในยูเครน อย่างไรก็ดี ทีมนักวิเคราะห์ของเจพีมอร์แกนกล่าวว่า รัฐบาลรัสเซียมีสถานะการคลังที่แข็งแกร่ง ซึ่งทำให้รัสเซียสามารถลดกำลังการผลิตน้ำมันดิบได้ประมาณ 5 ล้านบาร์เรล/วันโดยไม่สร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจมากเกินไป
ทั้งนี้ นักวิเคราะห์มองว่า การที่รัสเซียลดกำลังการผลิตน้ำมันมากถึง 5 ล้านบาร์เรล/วัน อาจจะสร้างผลกระทบอย่างใหญ่หลวง โดยนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า หากรัสเซียลดกำลังผลิตน้ำมัน 3 ล้านบาร์เรล/วัน จะส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ตลาดลอนดอนพุ่งขึ้นแตะระดับ 190 ดอลลาร์/บาร์เรล และในสถานการณ์ที่เลวร้ายสุดหากรัสเซียลดกำลังการผลิต 5 ล้านบาร์เรล/วัน ก็อาจส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบพุ่งขึ้นรุนแรงจนแตะระดับ 380 ดอลลาร์/บาร์เรล
-- ตลาดหุ้น ตลาดน้ำมัน และตลาดทองคำของสหรัฐปิดทำการในวันนี้ (4 ก.ค.) เนื่องในวันชาติสหรัฐ
-- วอยเอเจอร์ ดิจิทัล (Voyager Digital) โบรกเกอร์สินทรัพย์ดิจิทัลของสหรัฐเปิดเผยแถลงการณ์ในวันศุกร์ (1 ก.ค.) ระบุว่า บริษัทได้สั่งระงับการซื้อขายทั้งหมดของลูกค้า รวมถึงการฝาก, การถอน และการแจกรางวัลให้กับลูกค้า
"นี่เป็นการตัดสินใจที่ยากลำบากอย่างมาก แต่เราเชื่อว่า มันเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องเมื่อพิจารณาจากสภาวะตลาดในปัจจุบัน" นายสตีเฟน เออร์ลิช ซีอีโอของวอยเอเจอร์ระบุ
นายเออร์ลิชกล่าวว่า การตัดสินใจดังกล่าวมีขึ้นเพื่อให้บริษัทมีเวลาเพิ่มเติมในการสำรวจทางเลือกเชิงกลยุทธ์กับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียต่าง ๆ ต่อไป และพวกเขาจะให้ข้อมูลเพิ่มเติมได้ในเวลาที่เหมาะสม
-- องค์การอนามัยโลก (WHO) เตือนว่า มีความจำเป็นเร่งด่วนในการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคฝีดาษลิงในยุโรป เนื่องจากจำนวนผู้ติดเชื้อพุ่งขึ้น 3 เท่าในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา
WHO ระบุว่า ยุโรปเป็นศูนย์กลางการระบาดของไวรัสฝีดาษลิงทั่วโลก โดย 90% ของผู้ติดเชื้อที่ได้รับการยืนยันนั้นพบอยู่ในประเทศแถบยุโรป
ทั้งนี้ จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่พุ่งขึ้น 3 เท่านับตั้งแต่วันที่ 15 มิ.ย. โดยมีผู้ติดเชื้อที่ได้รับการยืนยันจำนวน 4,500 รายใน 31 ประเทศของยุโรป
-- หนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทม์สเปิดเผยผลสำรวจระบุว่า ชาวอเมริกันมีความไม่มั่นใจมากขึ้นต่อเศรษฐกิจ, ภาวะเงินเฟ้อ รวมทั้งตลาดแรงงาน
ทั้งนี้ ชาวอเมริกันวัยผู้ใหญ่จำนวน 52% ในการสำรวจ ยอมรับว่าพวกเขามีสถานะทางการเงินย่ำแย่กว่าในปีที่แล้ว ซึ่งตัวเลขดังกล่าวสูงกว่าระดับ 41% ในการสำรวจในเดือนเม.ย. และเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ที่มีการสำรวจเมื่อ 5 ปีก่อน
นอกจากนี้ ชาวอเมริกันเพียง 14% ระบุว่ามีสถานะทางการเงินดีกว่าปีที่แล้ว ซึ่งเป็นตัวเลขต่ำที่สุดนับตั้งแต่ที่มีการสำรวจ
-- 3M บริษัทยักษ์ใหญ่ในภาคอุตสาหกรรมของสหรัฐ แถลงในวันนี้ว่า ทางบริษัทจะถอนตัวจากแบรนด์ Neoplast ซึ่งเป็นพลาสเตอร์ปิดแผล และ Neobun ซึ่งเป็นพลาสเตอร์ยาบรรเทาปวดในไทยและอีกหลายประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
3M เปิดเผยว่า ทางบริษัทจะขายแบรนด์ Neoplast และ Neobun รวมทั้งโรงงานในลาดหลุมแก้วให้แก่บริษัทซีลิค คอร์พ จำกัด (มหาชน)
นอกจากนี้ 3M เปิดเผยว่า การขายโรงงานที่ลาดหลุมแก้วจะส่งผลกระทบต่อแรงงานจำนวน 250 คน ซึ่งบริษัทจะจ่ายเงินชดเชย และช่วยเหลือด้านการหางานใหม่แก่พนักงานต่อไป
-- เกิดเหตุคนร้ายใช้ปืนกราดยิงในห้างสรรสินค้าฟิลด์ส (Field's) ในกรุงโคเปนเฮเกน เมืองหลวงของประเทศเดนมาร์ก ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตหลายคน และมีผู้ได้รับบาดเจ็บอย่างน้อย 3 คน
โซเรน โธมัสสัน ผู้บัญชาการตำรวจกรุงโคเปนเฮเกนเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า เหตุกราดยิงเกิดขึ้นในช่วงบ่ายวันอาทิตย์ (3 ก.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น และขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุมตัวผู้ต้องสงสัยได้ 1 ราย เป็นชายชาวเดนมาร์กอายุ 22 ปี