หนังสือพิมพ์ไฟแนนเชียลไทม์สรายงานว่า ธนาคารกลางยุโรป (ECB) กำลังหาทางป้องกันไม่ให้ธนาคารพาณิชย์กอบโกยผลประโยชน์พิเศษจากโครงการปล่อยกู้ซึ่ง ECB ริเริ่มขึ้นในช่วงที่โควิด-19 ระบาด หาก ECB เริ่มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปลายเดือนก.ค.
ไฟแนนเชียลไทมส์รายงานโดยอ้างการเปิดเผยของนักวิเคราะห์ว่า ECB ได้จัดหาเงินกู้วงเงิน 2.2 พันล้านยูโรเพื่ออุดหนุนบรรดาธนาคารพาณิช์ในช่วงที่โควิด-19 แพร่ระบาดอย่างหนัก เพื่อช่วยให้ธนาคารเหล่านี้สามารถหลีกเลี่ยงภาวะขาดแคลนสินเชื่อ ซึ่งเมื่อ ECB เริ่มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ก็จะทำให้เกิดผลประโยชน์พิเศษ (Windfall Profits) มูลค่า 2.4 หมื่นล้านยูโรแก่ธนาคารพาณิชย์ในยุโรป
แหล่งข่าวระบุว่า ECB กำลังวางแผนที่จะหารือว่าจะควบคุมผลประโยชน์พิเศษที่ธนาคารต่าง ๆ อาจได้รับ ด้วยการให้ฝากเงินกลับไปที่ธนาคารกลางได้หรือไม่
ทั้งนี้ ในการประชุมเมื่อวันที่ 9 มิ.ย.ที่ผ่านมา ECB มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย แต่ได้ส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนก.ค. ซึ่งจะเป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งแรกในรอบ 11 ปี เพื่อสกัดการพุ่งขึ้นของเงินเฟ้อ
ไฟแนนเชียลไทม์ส รายงานว่า การที่ ECB ให้ผลประโยชน์ซึ่งเป็นเงินของผู้เสียภาษีแก่ธนาคารในขณะเดียวกันก็เพิ่มต้นทุนการกู้ยืมสำหรับครัวเรือนและธุรกิจนั้น ถือเป็นเรื่องที่ไม่สามารถยอมรับได้ในทางการเมือง