นักวิเคราะห์ของโกลด์แมน แซคส์คาดการณ์ว่า การใช้จ่ายภาคครัวเรือนของจีนจะดีดตัวขึ้น 4.5% ในช่วงครึ่งหลังของปี 2565 หลังจากรัฐบาลประกาศผ่อนคลายมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และเศรษฐกิจของจีนเริ่มส่งสัญญาณฟื้นตัว
ทีมนักวิเคราะห์ของโกลด์แมน แซคส์ซึ่งนำโดยแมกกี้ เหว่ย กล่าวว่า การใช้จ่ายของภาคครัวเรือนจีนจะปรับตัวขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ หลังจากชะลอตัวลงในไตรมาส 2 โดยโกลด์แมน แซคส์คาดว่า การใช้จ่ายของผู้บริโภคจีนในช่วงเดือนเม.ย.-มิ.ย.จะลดลง 1.5% ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผลมาจากเงินสดหมุนเวียนที่ลดน้อยลงในภาคครัวเรือน, ภาวะซบเซาของภาคธุรกิจ และความเชื่อมั่นของภาคครัวเรือนที่ถดถอยลง
อย่างไรก็ดี แม้โกลด์แมน แซคส์คาดการณ์ว่าการใช้จ่ายของผู้บริโภคจะฟื้นตัวขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปี 2565 แต่ได้ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของจีนปี 2565 ลงสู่ระดับ 4% จากระดับ 4.5% โดยตัวเลขคาดการณ์ครั้งใหม่นี้ ต่ำกว่าเป้าหมายที่รัฐบาลจีนกำหนดไว้ที่ 5.5%
"เมื่อพิจารณาจากความเสียหายทางเศรษฐกิจที่เกิดจากผลกระทบของโควิด-19 ในไตรมาส 2 ทำให้เราคาดว่าตัวเลข GDP ตลอดปี 2565 ของจีนจะขยายตัวเพียง 4% เมื่อเทียบกับตัวเลขคาดการณ์เดิมที่ระดับ 4.5% โดยการคาดการณ์ดังกล่าวอยู่บนสมมติฐานที่ว่า รัฐบาลจีนอาจจะใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างมีนัยสำคัญ นอกเหนือไปจากการสร้างเสถียรภาพในตลาดอสังหาริมทรัพย์และการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19" นักวิเคราะห์ของโกลด์แมน แซคส์กล่าว