บริษัทโวลด์ (Vauld) ซึ่งเป็นผู้ให้บริการปล่อยกู้คริปโทเคอร์เรนซีสัญชาติสิงคโปร์ ประกาศระงับการถอน, การซื้อขาย และการฝากคริปโทฯทั้งหมดบนแพลตฟอร์มของบริษัท ขณะเดียวกันบริษัทกำลังมองหาลู่ทางที่จะปรับโครงสร้างธุรกิจ
นายดาร์ชาน บาติจา ซีอีโอของโวลด์เปิดเผยว่า "ทางบริษัทกำลังเผชิญกับความท้าทายด้านการเงิน เนื่องจากตลาดคริปโทฯมีความผันผวนอย่างมาก นอกจากนี้ การที่บริษัทคู่ค้าทางธุรกิจหลัก ๆ ของเราเผชิญกับความยากลำบากด้านการเงินยังได้ส่งผลกระทบกับเราอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ และสภาพแวดล้อมในตลาดปัจจุบันยังผลักดันให้ลูกค้าของเราแห่ถอนเงินออกจากแพลตฟอร์มมากกว่า 197.7 ล้านดอลลาร์นับตั้งแต่วันที่ 12 มิ.ย.เป็นต้นมา
ทั้งนี้ โวลด์ระบุว่า ทางบริษัทกำลังหารือกับที่ปรึกษาด้านการเงินและด้านกฎหมาย เพื่อหาแนวทางและวิเคราะห์ทางเลือกทุกทาง ซึ่งรวมถึงทางเลือกในการปรับโครงสร้างธุรกิจ โดยคาดว่าทางเลือกดังกล่าวอาจจะเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการปกป้องผลประโยชน์ของบรรดาผู้ถือหุ้นของบริษัท
สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า โวลด์เป็นบริษัทรายล่าสุดที่ได้รับผลกระทบจากการทรุดตัวของราคาคริปโทฯ ในปีนี้ โดยในไตรมาส 2 ปีนี้ ราคาบิตคอยน์ดิ่งลงเป็นรายไตรมาสที่รุนแรงที่สุดนับตั้งแต่ปี 2554 ส่งผลให้มูลค่าตลาดคริปโทฯ ลดลงเป็นมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ในไตรมาสดังกล่าว
ส่วนเมื่อวันที่ 27 มิ.ย.ที่ผ่านมา บริษัททรี แอโรว์ส แคปิตอล (Three Arrows Capital หรือ 3AC) ซึ่งเป็นกองทุนเฮดจ์ฟันด์ของสิงคโปร์ที่เน้นลงทุนในคริปโทเคอร์เรนซี ผิดนัดชำระหนี้เงินกู้มูลค่ากว่า 670 ล้านดอลลาร์ที่จะต้องจ่ายให้กับบริษัทวอยเอเจอร์ ดิจิทัล (Voyager Digital) ซึ่งเป็นโบรกเกอร์ด้านสินทรัพย์ดิจิทัล
นอกจากนี้ในเดือนมิ.ย. บริษัทซลเซียส เน็ตเวิร์กส์ (Celsius Networks) ซึ่งเป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มปล่อยกู้คริปโทเคอร์เรนซีใหญ่ที่สุดในโลก ประกาศระงับการให้บริการด้านการถอน การแลกเปลี่ยน และการโอนระหว่างบัญชีทั้งหมดเป็นชั่วคราว เนื่องจากตลาดประสบความผันผวนอย่างหนัก