ราคาสินทรัพย์ในตลาด ได้แก่ หุ้น น้ำมัน และทอง ต่างร่วงลงในวันนี้ ต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย
ทั้งนี้ ดัชนีดาวโจนส์ร่วงลงกว่า 100 จุด ขณะที่สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI ดิ่งลงหลุดระดับ 96 ดอลลาร์/บาร์เรล และราคาน้ำมันดิบเบรนท์ร่วงหลุดระดับ 100 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนราคาทองฟิวเจอร์ดิ่งลงเกือบ 30 ดอลลาร์ หลุดระดับ 1,740 ดอลลาร์ ถึงแม้ทองได้รับการมองว่าเป็นสินทรัพย์ที่ป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อ และเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยในยามที่ตลาดมีความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย แต่การที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) แสดงความมุ่งมั่นในการเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ ก็ได้บดบังปัจจัยบวกดังกล่าว เนื่องจากการดีดตัวขึ้นของอัตราดอกเบี้ยจะเพิ่มต้นทุนค่าเสียโอกาสในการถือครองทอง ขณะที่ทองเป็นสินทรัพย์ที่ไม่มีผลตอบแทนในรูปดอกเบี้ย
นักลงทุนกังวลเกี่ยวกับการเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยในสหรัฐ หลังจากที่ตลาดพันธบัตรสหรัฐ และแบบจำลองคาดการณ์เศรษฐกิจของเฟดต่างก็ส่งสัญญาณเศรษฐกิจถดถอย
นักลงทุนจับตากระทรวงพาณิชย์สหรัฐซึ่งจะเปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งที่ 1 สำหรับผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 2 ในวันที่ 28 ก.ค. ซึ่งจะเป็นการยืนยันภาวะเศรษฐกิจสหรัฐว่าเข้าสู่ภาวะถดถอยหรือไม่
นอกจากนี้ นักลงทุนกังวลต่อเศรษฐกิจสหรัฐ หลังจากที่สถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยในวันนี้ว่า ดัชนีภาคบริการของสหรัฐปรับตัวลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 2 ปีในเดือนมิ.ย. สอดคล้องกับดัชนีภาคการผลิตที่ดิ่งลงต่ำสุดในรอบ 2 ปีเช่นกัน
ตลาดพันธบัตรสหรัฐยังคงเกิดภาวะ inverted yield curve ในวันนี้ ต่อเนื่องจากวานนี้ ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 ปีดีดตัวสูงกว่าอายุ 5 ปีและ 10 ปี ท่ามกลางความกังวลที่ว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะเผชิญภาวะถดถอยจากการที่เฟดเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ
ตลาดพันธบัตรสหรัฐเกิดภาวะ inverted yield curve โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะสั้นดีดตัวเหนือพันธบัตรระยะยาว ซึ่งเป็นการบ่งชี้ถึงแนวโน้มการเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย
ที่ผ่านมา ภาวะ inverted yield curve มักเกิดขึ้นจากการที่นักลงทุนพากันเทขายพันธบัตรระยะสั้น และเข้าซื้อพันธบัตรระยะยาว ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจในระยะสั้น
เฟดสาขาแอตแลนตาเปิดเผยว่า แบบจำลองคาดการณ์ GDPNow ล่าสุดแสดงให้เห็นว่า เศรษฐกิจสหรัฐหดตัว 2.1% ในไตรมาส 2 จากเดิมที่บ่งชี้ว่ามีแนวโน้มหดตัว 1.0%
ตัวเลขคาดการณ์ GDPNow บ่งชี้ว่า เศรษฐกิจสหรัฐหดตัวในไตรมาส 2 รุนแรงกว่าไตรมาส 1 ซึ่งหดตัว 1.6% และแสดงว่าเศรษฐกิจสหรัฐได้เข้าสู่ภาวะถดถอยแล้ว เนื่องจากเศรษฐกิจหดตัว 2 ไตรมาสติดต่อกัน
เฟดสาขาแอตแลนตาจะรายงานตัวเลขคาดการณ์ GDPNow ครั้งใหม่ในวันพรุ่งนี้
นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด กล่าวก่อนหน้านี้ว่า เฟดมีความมุ่งมั่นในการสกัดเงินเฟ้อ แม้การใช้นโยบายคุมเข้มทางการเงินจะชะลอการขยายตัวทางเศรษฐกิจ แต่ก็จะไม่สร้างความเสี่ยงที่รุนแรง
"เรามีความมุ่งมั่นที่จะใช้เครื่องมือทั้งหมดที่เรามีเพื่อทำให้เงินเฟ้อปรับตัวลง ซึ่งการกระทำดังกล่าวก็คือการลดการขยายตัวทางเศรษฐกิจ ซึ่งแม้จะมีความเสี่ยง แต่ผมก็มองว่านี่ไม่ใช่ความเสี่ยงใหญ่ที่สุดต่อเศรษฐกิจ โดยความผิดพลาดมากกว่าที่อาจเกิดขึ้นก็คือความล้มเหลวในการรักษาเสถียรภาพด้านราคา" นายพาวเวลกล่าว