บริษัทเจเนซิส เทรดดิง (Genesis Trading) ซึ่งเป็นโบรกเกอร์สกุลเงินคริปโทเคอร์เรนซีของสหรัฐยืนยันว่า บริษัทได้ปล่อยเงินกู้ให้กับบริษัททรี แอโรว์ส แคปิตอล (Three Arrows Capital หรือ 3AC) ซึ่งเป็นกองทุนเฮดจ์ฟันด์คริปโทฯ ของสิงคโปร์และกำลังประสบกับภาวะล้มละลายในขณะนี้ อย่างไรก็ดี เจเนซิสระบุว่า ทางบริษัทได้พยายามลดความเสียหายที่เกิดขึ้น หลังจาก 3AC ผิดนัดชำระหนี้ในการเพิ่มเงินประกัน (Margin Call)
นายไมเคิล โมโร ซีอีโอของเจเนซิสได้ทวีตข้อความในวันพุธ (6 ก.ค.) ว่า เงินกู้ที่ปล่อยให้กับ 3AC นั้น มีข้อกำหนดมาร์จินเฉลี่ยมากกว่า 80% โดยเจเนซิสกำลังใช้กลยุทธ์ในทุก ๆ ด้านเพื่อบรรเทาความเสียหายที่เกิดขึ้น
ทั้งนี้ นายโมโรกล่าวว่า ดิจิทัล เคอร์เรนซี กรุ๊ป (Digital Currency Group) ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของเจเนซิส จะเป็นผู้แบกรับหนี้สินบางส่วนของเจเนซิส เพื่อให้เจเนซิสยังสามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้
ในช่วงปลายเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมา 3AC ซึ่งมุ่งเน้นลงทุนในคริปโทเคอร์เรนซี ผิดนัดชำระหนี้เงินกู้มูลค่ากว่า 670 ล้านดอลลาร์ที่ต้องจ่ายให้กับบริษัทวอยเอเจอร์ ดิจิทัล (Voyager Digital) ซึ่งเป็นโบรกเกอร์ด้านสินทรัพย์ดิจิทัล จนกระทั่งในวันที่ 6 ก.ค. วอยเอเจอร์ได้ตัดสินใจยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อขอพิทักษ์ทรัพย์ตามมาตรา 11 ของกฎหมายล้มละลายของสหรัฐ โดยหนึ่งในสาเหตุที่ต้องยื่นล้มละลายคือการที่ 3AC ผิดนัดชำระหนี้
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการผิดนัดชำระหนี้ของ 3AC นั้น เริ่มปรากฏให้เห็น เนื่องจากมีบริษัทปล่อยกู้คริปโทฯ และบริษัทโบรกเกอร์จำนวนมากขึ้นที่ออกมาเปิดเผยว่าได้ปล่อยเงินกู้ให้กับบริษัทแห่งนี้ โดย 3AC ได้ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐนิวยอร์กเพื่อขอพิทักษ์ทรัพย์ตามมาตรา 11 ของกฎหมายล้มละลาย และถูกศาลบริติช เวอร์จิน ไอซ์แลนด์ ออกคำสั่งให้ขายสินทรัพย์เพื่อชำระหนี้ให้กับบรรดาเจ้าหนี้
บริษัทคริปโทฯ จำนวนมากได้รับความเสียหายจากการที่เหรียญสเตเบิลคอยน์ TerraUSD หรือ UST ทรุดตัวลงจนหลุดมูลค่า 1 ดอลลาร์ที่ตรึงไว้กับดอลลาร์สหรัฐเมื่อเดือนพ.ค.ที่ผ่านมา นอกจากนี้ การที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย และความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย ได้ส่งผลให้ตลาดหุ้นทั่วโลกผันผวนและทำให้เกิดแรงเทขายในตลาดคริปโทฯ ด้วย