เกาหลีใต้เตรียมใช้นโยบายคุมเข้มการใช้จ่ายของภาครัฐ เพื่อชะลอการเพิ่มขึ้นของภาระหนี้สิน รวมถึงเพื่อพยุงอัตราส่วนหนี้สาธารณะต่อผลผลิตมวลรวมภายในประเทศ (Debt-to-GDP) ให้อยู่ใกล้เคียงระดับ 55% ภายในปี 2570 หลังจากที่ดำเนินมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจขนานใหญ่มาหลายปี ซึ่งทำให้สถานะทางการคลังของประเทศอ่อนแอลง
ทั้งนี้ อัตราส่วนหนี้สินต่อจีดีพีของเกาหลีใต้นั้นเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 50% ในปีนี้ จากระดับ 36% ในปี 2560 เนื่องจากเกาหลีใต้ออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจหลายรายการ เช่น การแจกเงินสด เพื่อกระตุ้นให้เศรษฐกิจกลับมาฟื้นตัวจากโควิด-19
ตามแผนนโยบายการคลังของรัฐบาลชุดใหม่ซึ่งกระทรวงการคลังได้ประกาศในวันนี้ (7 ก.ค.) ระบุว่า รัฐบาลจะปรับลดอัตราการขาดดุลงบประมาณต่อจีดีพี ลงสู่ระดับก่อนโควิด-19 ระบาดที่ 3% หรือต่ำกว่าระดับ 5% ที่ประมาณการไว้สำหรับปีนี้
นอกเหนือจากมาตรการต่าง ๆ แล้ว แผนดังกล่าวระบุว่า รัฐบาลเกาหลีใต้จะควบคุมรายจ่ายที่เกี่ยวข้องกับโควิด-19 ให้อยู่ในระดับปกติ, ตัดขายสินทรัพย์ที่ไม่จำเป็นของหน่วยงานภาครัฐออกไป, บริหารการจัดสรรโควตาพนักงาน และแผนเงินเดือนให้รัดกุมขึ้น
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า กระทรวงการคลังเกาหลีใต้ยังได้เตรียมออกนโยบายการคลังใหม่ภายใต้แผนดังกล่าว โดยกำหนดให้ทันต้นเดือนก.ย. นี้ และจะมีผลบังคับใช้ทันทีที่กระบวนการทางกฎหมายแล้วเสร็จ