นักลงทุนจับตาการเปิดเผยผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนสหรัฐในสัปดาห์นี้ โดยเริ่มจากธนาคารขนาดใหญ่ซึ่งจะรายงานผลประกอบการประจำไตรมาส 2 ในวันที่ 14-15 ก.ค.
อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์เตือนว่าธนาคารสหรัฐจะรายงานตัวเลขกำไรในไตรมาส 2 ที่น่าผิดหวัง เนื่องจากมีการเพิ่มการกันสำรองหนี้สูญ ท่ามกลางแนวโน้มการเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย
ทั้งนี้ กฎระเบียบที่มีการบังคับใช้ในเดือนม.ค.2563 กำหนดให้ธนาคารต่างๆจะต้องนำปัจจัยแนวโน้มเศรษฐกิจเข้ารวมในการพิจารณากันสำรองหนี้สูญ
นายเจมี ไดมอน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของเจพีมอร์แกน เชสกล่าวเตือนในเดือนที่แล้วว่า สหรัฐกำลังเผชิญพายุเฮอร์ริเคนด้านเศรษฐกิจ ขณะที่นายเจมส์ กอร์แมน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของมอร์แกน สแตนลีย์ กล่าวว่า มีโอกาส 50% ที่สหรัฐจะเผชิญภาวะเศรษฐกิจถดถอย
ข้อมูลจาก Refinitiv I/B/E/S ระบุว่า เจพีมอร์แกน เชส จะรายงานกำไรลดลง 25% ในไตรมาส 2 เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ขณะที่ซิตี้กรุ๊ป อิงค์ลดลง 38% เวลส์ ฟาร์โกดิ่งลง 42% แบงก์ ออฟ อเมริการ่วงลง 29% โกลด์แมน แซคส์ทรุดตัวลง 51% และมอร์แกน สแตนลีย์ลดลง 17%
ทั้งนี้ เจพีมอร์แกน เชสและมอร์แกน สแตนลีย์ จะรายงานผลประกอบการประจำไตรมาส 2 ในวันที่ 14 ก.ค. ขณะที่ซิตี้กรุ๊ป, เวลส์ ฟาร์โก จะรายงานในวันที่ 15 ก.ค. ส่วนแบงก์ ออฟ อเมริกา และโกลด์แมน แซคส์ จะรายงานในวันที่ 18 ก.ค.
นักวิเคราะห์คาดว่า เจพีมอร์แกน เชส, ซิตี้กรุ๊ป, เวลส์ ฟาร์โก และแบงก์ ออฟ อเมริกา ซึ่งเป็นธนาคารในกลุ่มบิ๊กโฟร์ของสหรัฐ จะต้องทำการกันสำรองหนี้สูญรวมกันถึง 3.5 พันล้านดอลลาร์