ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ออกรายงานเตือนว่า รัฐบาลของประเทศยูโรโซนต้องเร่งกำกับดูแลสเตเบิลคอยน์อย่างเร่งด่วน ก่อนที่จะสร้างความเสี่ยงต่อเสถียรภาพด้านการเงิน
"แม้ว่าขณะนี้ความเสี่ยงของสเตเบิลคอยน์ที่มีต่อเสถียรภาพด้านการเงินในยูโรโซนยังคงอยู่แค่ในวงจำกัด แต่หากสเตเบิลคอยน์ยังคงเติบโตต่อไป สถานการณ์ในวันข้างหน้าก็อาจเปลี่ยนแปลงได้ ที่ผ่านมานั้นสเตเบิลคอยน์มีบทบาทสำคัญต่อสภาพคล่องในตลาดคริปโทเคอร์เรนซี ซึ่งตลาดอาจปรับตัวลงอย่างมีนัยสำคัญ หากราคาเหรียญสเตเบิลคอยน์ทรุดตัวลง" ECB ระบุในรายงาน Macroprudential Bulletin ซึ่งเผยแพร่เมื่อวานนี้ (11 ก.ค.) และยังเตือนว่า ผลกระทบอาจขยายตัวเป็นวงกว้าง หากความเชื่อมโยงระหว่างสินทรัพย์ดิจิทัลและระบบการเงินแบบดั้งเดิมยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ในเดือนพ.ค.ที่ผ่านมา เหรียญสเตเบิลคอยน์ TerraUSD หรือ UST ทรุดตัวลงอย่างหนัก ส่งผลให้เหรียญเทเธอร์ (Tether) ซึ่งเป็นสเตเบิลคอยน์สกุลใหญ่ที่สุดในโลก ร่วงหลุดจากมูลค่า 1 ดอลลาร์ที่ตรึงไว้กับดอลลาร์สหรัฐ
ด้านนางเจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีคลังสหรัฐได้เตือนก่อนหน้านี้ว่า การทรุดตัวลงอย่างหนักของราคาเหรียญสเตเบิลคอยน์ UST ถือเป็นหลักฐานที่บ่งชี้ว่า สเตเบิลคอยน์เป็นสินทรัพย์ดิจิทัลที่มีความเสี่ยง
นางเยลเลนได้แสดงวิสัยทัศน์ต่อคณะกรรมาธิการด้านบริการการเงินแห่งสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐเมื่อวันที่ 12 พ.ค.ที่ผ่านมาว่า ราคาเหรียญ UST ที่ร่วงลงอย่างต่อเนื่องนั้น สะท้อนให้เห็นถึงอันตรายของเหรียญโทเคนที่ตรึงมูลค่าไว้กับสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ พร้อมกับเรียกร้องให้มีการออกกฎข้อบังคับใหม่ ๆ
"แม้ว่าขณะนี้ดิฉันยังไม่สามารถชี้ชัดได้ว่าสเตเบิลคอยน์มีความเสี่ยงต่อเสถียรภาพการเงิน แต่สิ่งที่เห็นในขณะนี้คือ สเตเบิลคอยน์มีการเติบโตอย่างรวดเร็ว และแสดงให้เห็นถึงความเสี่ยงที่อาจจะนำไปสู่เหตุการณ์ที่คล้ายกับกระแสการแห่ถอนเงินออกจากธนาคาร (Bank Run)" นางเยลเลนกล่าว