บริษัทเซลเซียส เน็ตเวิร์ก (Celsius Network) ซึ่งเป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มปล่อยกู้คริปโทเคอร์เรนซีรายใหญ่ที่สุดในโลก ได้ยื่นคำร้องต่อศาลสหรัฐเพื่อขอพิทักษ์ทรัพย์ตามมาตรา 11 ของกฎหมายล้มละลาย หลังจากบริษัทได้รับผลกระทบอย่างหนักจากภาวะผันผวนในตลาดคริปโทฯ
เซลเซียสออกแถลงการณ์ในวันพุธ (13 ก.ค.) โดยระบุว่า "ทางบริษัทกำลังมองหาแนวทางในการสร้างเสถียรภาพของธุรกิจโดยใช้วิธีการปรับโครงสร้าง ซึ่งคาดว่าจะช่วยเพิ่มมูลค่าสูงสุดให้กับผู้ถือหุ้นทุกคน โดยขณะนี้บริษัทมีเงินสดอยู่ประมาณ 167 ล้านดอลลาร์ เพื่อพยุงกิจการให้ดำเนินต่อไปในเวลานี้"
สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า เซลเซียสเป็นบริษัทคริปโทฯ ที่มีชื่อเสียงรายล่าสุดที่ตัดสินใจยื่นขอพิทักษ์ทรัพย์ตามกฎหมายล้มละลาย โดยเมื่อวันที่ 6 ก.ค.ที่ผ่านมา บริษัทวอยเอเจอร์ ดิจิทัล (Voyager Digital) ซึ่งเป็นโบรกเกอร์สินทรัพย์ดิจิทัลของสหรัฐได้ยื่นคำร้องต่อศาลสหรัฐเพื่อขอพิทักษ์ทรัพย์ตามมาตรา 11 เนื่องจากความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการที่บริษัททรี แอโรว์ส แคปิตอล (Three Arrows Capital หรือ 3AC) ผิดนัดชำระหนี้เงินกู้ที่จะต้องจ่ายให้กับวอยเอเจอร์จำนวนมากถึง 670 ล้านดอลลาร์
รายงานระบุว่า ศาลรัฐนิวยอร์กได้สั่งอายัดทรัพย์สินของบริษัท 3AC เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยขณะนี้ทางบริษัทกำลังอยู่ในกระบวนการตัดขายสินทรัพย์เพื่อนำเงินมาชำระหนี้ตามคำสั่งศาล
บริษัทคริปโทฯ จำนวนมากได้รับความเสียหายจากการที่เหรียญสเตเบิลคอยน์ TerraUSD หรือ UST ทรุดตัวลงจนหลุดมูลค่า 1 ดอลลาร์ที่ตรึงไว้กับดอลลาร์สหรัฐเมื่อเดือนพ.ค.ที่ผ่านมา นอกจากนี้ การที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย และความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย ได้ส่งผลให้ตลาดหุ้นทั่วโลกผันผวนและทำให้เกิดแรงเทขายในตลาดคริปโทฯ ด้วย