อินโดฯทำยอดเกินดุลการค้าได้สูงกว่าคาด หลังเลิกแบนส่งออกน้ำมันปาล์ม

ข้อมูลจากสำนักงานสถิติแห่งชาติอินโดนีเซียบ่งชี้ว่า ยอดเกินดุลการค้าของอินโดนีเซียในเดือนมิ.ย.สูงกว่าระดับคาดการณ์แตะ 5.09 พันล้านดอลลาร์ เนื่องจากการส่งออกน้ำมันปาล์มพุ่งสูงขึ้น หลังจากรัฐบาลยกเลิกการห้ามส่งออกในเดือนพ.ค. ขณะที่ยอดส่งออกถ่านหินไปยังยุโรปเพิ่มขึ้นด้วย

ส่วนผลสำรวจที่จัดทำโดยรอยเตอร์คาดการณ์ว่า ยอดเกินดุลการค้าเดือนมิ.ย.ของอินโดนีเซียจะอยู่ที่ 3.52 พันล้านดอลลาร์ในเดือนมิ.ย. หลังจากมียอดเกินดุลการค้าในเดือนพ.ค.ที่ 2.90 พันล้านดอลลาร์

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า อินโดนีเซียมียอดส่งออกที่ขยายตัวอย่างมาก เนื่องจากราคาสินค้าโภคภัณฑ์ในตลาดโลกพุ่งสูงขึ้น โดยยอดเกินดุลการค้าในช่วงครึ่งแรกของปี 2565 แตะระดับสูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ที่ 2.489 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งมากกว่าช่วงเดียวกันของปี 2564 ถึงสองเท่า

สำหรับยอดส่งออกเดือนมิ.ย.ของอินโดนีเซียเพิ่มขึ้น 40.68% เมื่อเทียบเป็นรายปี แตะ 2.609 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งสูงกว่าระดับคาดการณ์ที่ 30.26% ส่วนยอดนำเข้าเพิ่มขึ้น 21.98% เมื่อเทียบรายปี แตะ 2.1 หมื่นล้านดอลลาร์ โดยได้รับแรงหนุนจากยอดการสั่งซื้อวัตถุดิบและเครื่องจักรอุตสาหกรรมที่เพิ่มขึ้นมากที่สุด ซึ่งสอดคล้องกับระดับคาดการณ์ที่ 20.10%

ทั้งนี้ น้ำมันปาล์มและผลผลิตปาล์มน้ำมันคิดเป็นมูลค่า 2.74 พันล้านดอลลาร์ของยอดส่งออกทั้งหมด ท่ามกลางราคาในตลาดโลกที่ระดับสูง ซึ่งเพิ่มขึ้นมากกว่า 860% จากเดือนพ.ค. และมียอดขายเพิ่มขึ้นอย่างมากไปยังอินเดีย, ปากีสถาน, บังกลาเทศ และจีน โดยเพิ่มขึ้น 89% เมื่อเทียบรายปี