นายชู คยองโฮ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเกาหลีใต้ไม่กังวลเกี่ยวกับความเสี่ยงระยะสั้นในการเกิดกระแสเงินทุนไหลออกจากเกาหลีใต้ ในขณะที่ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยทั่วโลกกว้างขึ้น
ทั้งนี้ นายชูกล่าวที่การประชุม G20 ซึ่งจัดขึ้นที่เกาะบาหลีว่า เกาหลีใต้จะไม่เผชิญภาวะเงินทุนไหลออกจากปัจจัยขับเคลื่อนเศรษฐกิจเพียงปัจจัยเดียว เช่น ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ย เนื่องจากนักลงทุนถูกดึงดูดจากปัจจัยอื่น ๆ เช่น ความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจ
นายชู ซึ่งควบตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีเกาหลีใต้ด้วยนั้น ยอมรับว่าเขามีความกังวลว่าสหรัฐอาจเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายในเชิงรุกมากยิ่งขึ้น โดยส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยที่กว้างมากขึ้นอาจกระตุ้นให้เกิดกระแสเงินทุนไหลออกจากเกาหลีใต้
"เกาหลีใต้เคยเผชิญภาวะช่องว่างอัตราดอกเบี้ยมาก่อนประมาณสองสามครั้ง แต่เราไม่ได้เผชิญกระแสเงินทุนไหลออกครั้งใหญ่แต่อย่างใด เมื่ออิงตามเหตุการณ์ดังกล่าว ผมคิดว่าเงินทุนไหลออกไม่ได้เกิดขึ้นเพียงเพราะส่วนต่างของอัตราดอกเบี้ย" นายชูกล่าว
อย่างไรก็ตาม นายชูระบุว่า การปรับขึ้นดอกเบี้ยในเชิงรุกของเฟด เพื่อสกัดเงินเฟ้อ ยังคงสร้างความวิตกกังวล โดยต้นทุนการกู้ยืมเงินที่แตกต่างกันมากขึ้นระหว่างสหรัฐและเกาหลีใต้อาจเร่งให้เกิดภาวะเงินทุนไหลออกระหว่างสองประเทศในอนาคตอันใกล้
เงินทุนไหลออกเกิดขึ้นเมื่อนักลงทุนย้ายสินทรัพย์และเงินจากประเทศหนึ่งไปยังอีกประเทศหนึ่ง เพื่อแสวงหาผลตอบแทนการลงทุนที่ดีกว่า เช่น อัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น
สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.75% ในเดือนมิ.ย. ซึ่งเป็นการปรับขึ้นดอกเบี้ยมากที่สุดนับตั้งแต่ปี 2537 โดยเฟดส่งสัญญาณว่าจะปรับขึ้นดอกเบี้ยครั้งใหญ่อีกในการประชุมเดือนก.ค. หลังเงินเฟ้อสหรัฐพุ่งแตะระดับ 9.1% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 40 ปี