นายเอส ไจชานคาร์ รัฐมนตรีคลังอินเดียเปิดเผยว่า รัฐบาลอินเดียจะพิจารณาให้ความช่วยเหลือเพิ่มเติมแก่ศรีลังกา หลังจากศรีลังกาเจรจากับกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) โดยอินเดียมีความประสงค์ที่จะให้ความช่วยเหลือประเทศเพื่อนบ้านอย่างศรีลังกาซึ่งกำลังเผชิญวิกฤตเศรษฐกิจครั้งรุนแรงที่สุดนับตั้งแต่ได้รับเอกราชจากสหราชอาณาจักรในปี 2491
"เมื่อ IMF และศรีลังกาสามารถทำข้อตกลงเพื่อพยุงเศรษฐกิจให้สามารถก้าวต่อไปได้ เมื่อนั้นเราจะเริ่มพิจารณามาตรการให้ความช่วยเหลือแก่ศรีลังกา" นายไจชานคาร์เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวหลังจากเข้าร่วมประชุมกับบรรดาผู้นำทางการเมืองของอินเดียเกี่ยวกับวิกฤตการณ์ศรีลังกาในวันอังคาร (19 ก.ค.)
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ศรีลังกากำลังเจรจากับ IMF เพื่อขอการสนับสนุนด้านการเงิน โดยศรีลังกาจำเป็นต้องใช้เงินทุนอย่างน้อย 6 พันล้านดอลลาร์ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้ เพื่อฟื้นฟูเงินทุนสำรองที่รัฐบาลนำออกไปใช้จ่ายเพื่อซื้อสินค้านำเข้าที่จำเป็น และเพื่อรักษาเสถียรภาพค่าเงินของประเทศ
ก่อนหน้านี้ อินเดียได้มอบเงินช่วยเหลือให้กับศรีลังกาอีก 3.8 พันล้านดอลลาร์ รวมทั้งให้การสนับสนุนในรูปของการสวอปค่าเงินและเลื่อนเวลาการชำระคืนหนี้สินที่ศรีลังกาจะต้องจ่ายให้ธนาคารกลางอินเดีย โดยหนี้สินดังกล่าวมีมูลค่าสูงถึงราว 1.5 พันล้านดอลลาร์ซึ่งศรีลังกานำไปใช้เป็นทุนในการนำเข้าเชื้อเพลิง อาหาร ยารักษาโรค และปุ๋ย
"ในปีนี้ ยังไม่มีประเทศใดที่ให้ความช่วยเหลือแก่ศรีลังกาในระดับสูงเท่านี้" นายไจชานคาร์กล่าว และระบุเสริมว่า อินเดียจะช่วยอำนวยความสะดวกให้ศรีลังกาสามารถขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานอื่น ๆ ซึ่งรวมถึง IMF
เศรษฐกิจศรีลังกาเผชิญกับวิกฤตครั้งรุนแรงที่สุดนับตั้งแต่ได้รับเอกราชจากสหราชอาณาจักรในปี 2491 อันเนื่องมาจากผลกระทบของโรคระบาดและการที่รัฐบาลของนายราชปักษะใช้มาตรการปรับลดภาษี นอกจากนี้ ศรีลังกายังเผชิญวิกฤตเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้นกว่า 50% และภาวะขาดแคลนอาหาร เชื้อเพลิง และยารักษาโรค ซึ่งส่งผลให้ประชาชนจำนวนมากพากันออกมาประท้วงบนท้องถนนเป็นเวลานานหลายเดือน เพื่อขับไล่นายราชปักษะออกจากตำแหน่ง
รัฐสภาศรีลังกาจะเริ่มลงคะแนนเพื่อสรรหาประธานาธิบดีคนใหม่ในวันนี้ ขณะที่หลายฝ่ายกังวลว่ามวลชนชาวศรีลังกาอาจจะออกมาประท้วงอีกครั้ง หากนายรานิล วิกรมสิงเห ซึ่งดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีมาแล้วถึง 4 สมัยนั้น ได้รับเลือกให้เป็นประธานาธิบดีคนใหม่