ศูนย์การพัฒนาและการเงินเพื่อความยั่งยืน (Green Finance & Development Center) ของมหาวิทยาลัยฟูตันเปิดเผยผลการศึกษาระบุว่า การลงทุนของโครงการหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง (Belt and Road Initiative: BRI) ของจีนในรัสเซีย, ศรีลังกา และอียิปต์ ลดลงเหลือศูนย์ในช่วงครึ่งแรกของปี 2565
รายงานระบุว่า การสนับสนุนทางการเงินและการลงทุนของโครงการ BRI อยู่ที่ 2.84 หมื่นล้านดอลลาร์ในช่วง 6 เดือนแรกของปี ลดลงจากระดับ 2.94 หมื่นล้านดอลลาร์ในช่วงเวลาเดียวกันของปีแล้ว และลดลงจากช่วงครึ่งแรกของปี 2562 ถึง 40%
โครงการ BRI มีการลงทุนประมาณ 1.18 หมื่นล้านดอลลาร์ และมีสัญญาก่อสร้างมูลค่า 1.65 หมื่นล้านดอลลาร์ โดยบางส่วนได้รับการสนับสนุนจากการปล่อยกู้จากจีน ส่วนประเทศที่จีนลงทุนมากที่สุดคือซาอุดีอาระเบีย ขณะที่ไม่มีโครงการเกี่ยวกับถ่านหินใด ๆ ได้รับเงินทุนจาก BRI ในช่วงครึ่งแรกของปี
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า โครงการ BRI ตกเป็นเป้าการวิจารณ์มาตลอดหลายปีที่ผ่านมา โดยสหรัฐกล่าวหาว่าโครงการดังกล่าวใช้ "การทูตแบบกับดักหนี้" เพื่อทำให้กลุ่มประเทศกำลังพัฒนาต้องพึ่งพาจีนมากขึ้น ขณะที่จีนปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าว