นายพอล ชาน รัฐมนตรีคลังฮ่องกงเปิดเผยว่า ฮ่องกงมีเงินทุนสำรองเงินตราต่างประเทศจำนวนมากถึงประมาณ 4.4 แสนล้านดอลลาร์ของฮ่องกง ซึ่งมากเพียงพอที่จะรักษาระบบการผูกติดค่าเงินดอลลาร์ฮ่องกงกับดอลลาร์สหรัฐต่อไป แม้ว่าการปรับขึ้นดอกเบี้ยของสหรัฐจะนำไปสู่ภาวะเงินทุนไหลออกก็ตาม
ทั้งนี้ สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า นายชานเป็นเจ้าหน้าที่คนล่าสุดที่ออกมายืนยันสถานะอันแข็งแกร่งของทุนสำรองเงินตราต่างประเทศของฮ่องกง หลังนายไคล์ แบส จากบริษัทเฮย์แมน แคปิตอล เมเนจเมนต์กล่าวผ่านทวิตเตอร์เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาว่า ทุนสำรองเงินตราต่างประเทศของฮ่องกงที่ใช้ในการปกป้องดอลลาร์สหรัฐเริ่มลดน้อยลง เพราะการเข้าแทรกแซงเพื่อพยุงค่าเงินดอลลาร์ฮ่องกงเมื่อไม่นานมานี้ โดยเขาอ้างว่าทุนเงินตราต่างประเทศของฮ่องกงอาจหมดลงภายในสิ้นเดือนหน้า
นายชานระบุว่า ฮ่องกงเผชิญภาวะอุปสงค์ที่อ่อนแอและเงินทุนไหลออกตลอดช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ซึ่งเป็นไปตามความคาดหมาย เนื่องจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายหลายครั้งในปีนี้ แต่สถานะด้านการเงินสาธารณะของฮ่องกงนั้นมีความแข็งแกร่ง และกลไกเฝ้าระวังความเสี่ยงของฮ่องกงมีความเหมาะสมและมีประสิทธิภาพสำหรับใช้รับมือกับสถานการณ์ดังกล่าว
"ฮ่องกงมีทุนสำรองเงินตราต่างประเทศมูลค่าสูงกว่า 4.4 แสนล้านดอลลาร์ โดยคิดเป็นประมาณ 1.7 เท่าของฐานเงินของดอลลาร์ฮ่องกง นอกจากนี้ ระบบการเงินและธนาคารของฮ่องกงมีความคล่องตัว การดำเนินการของภาคธนาคารมีเสถียรภาพ และคุณภาพสินทรัพย์ก็อยู่ในเกณฑ์ดีเลิศ" นายชานกล่าว
"หลังจากที่เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย นักลงทุนได้เทขายดอลลาร์ฮ่องกงและเข้าซื้อดอลลาร์สหรัฐ เพื่อรับผลตอบแทนเป็นอัตราดอกเบี้ยที่สูงกว่า เราคาดว่าหากเฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก ก็จะส่งผลกระทบต่อการไหลเวียนของเงินทุนและทำให้ราคาสินทรัพย์ในตลาดฮ่องกงเปลี่ยนแปลงไปอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้" รมว.คลังฮ่องกงกล่าว