ทั้งนี้ รัฐบาลเซินเจิ้นได้ขอให้บริษัทขนาดใหญ่ที่สุด 100 แห่ง ซึ่งรวมถึงผู้ผลิตยานยนต์บีวายดี บริษัทเทคโนโลยีเครือข่ายอย่างหัวเว่ยและแซดทีอี ตลอดจนผู้ผลิตโดรนอย่างดีเจไอ จำกัดการดำเนินงานเฉพาะในกลุ่มพนักงานที่อาศัยอยู่ภายในระบบปิด โดยลดการติดต่อสื่อสารกับบุคคลที่อยู่นอกโรงงานหรือสำนักงานให้เหลือน้อยที่สุด
นอกจากนี้ ข้อมูลจากประกาศของรัฐบาลเซินเจิ้นยังขอความร่วมมือให้บริษัทต่าง ๆ ลดการปฏิสัมพันธ์ทั่วไประหว่างผู้ที่ไม่ใช่พนักงานด้านการผลิตและแผนกโรงงาน เพื่อลดการติดเชื้อ
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า การสั่งล็อกดาวน์ในเซินเจิ้นมีขึ้นหลังเศรษฐกิจจีนหลีกเลี่ยงภาวะหดตัวได้ไปแบบเฉียดฉิวในไตรมาส 2/2565 ซึ่งเป็นช่วงที่จีนบังคับใช้มาตรการล็อกดาวน์หลายระลอก ทำให้ต้องปิดธุรกิจทั่วประเทศ บั่นทอนการจ้างงาน และกระทบการใช้จ่ายผู้บริโภค
นักเศรษฐศาสตร์และนักวิชาการออกโรงเรียกร้องให้จีนผ่อนปรนมาตรการควบคุมโควิด-19 โดยจีนเป็นประเทศที่บังคับใช้มาตรการสกัดโควิด-19 เข้มงวดที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ทำให้เกิดกระแสวิจารณ์ว่าเป็นสาเหตุที่ทำให้เศรษฐกิจเสียหายจนนำไปสู่การประท้วงในวงกว้าง