นายกฤษณะ ศรีนิวาสันต์ ผู้เชี่ยวชาญของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) เปิดเผยว่า ระดับหนี้สินรวมในภูมิภาคเอเชียเพิ่มขึ้นอย่างมาก ท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับเงินเฟ้อและภาวะการเงินที่ตึงตัวทั่วภูมิภาคเอเชียซึ่งทำให้ระดับหนี้สินเพิ่มสูงขึ้น
นายศรีนิวาสันต์ ผู้อำนวยการแผนกเอเชียและแปซิฟิกของ IMF กล่าวกับรายการ Squawk Box Asia ของซีเอ็นบีซีเมื่อวันพุธ (27 ก.ค.) ว่า "หากคุณพิจารณาหนี้ในภูมิภาค และส่วนแบ่งของหนี้ทั้งหมดในเอเชีย หนี้สินโดยรวมนั้นได้เพิ่มขึ้นค่อนข้างมาก"
เขาระบุว่า ระดับหนี้ในภูมิภาคเอเชียเพิ่มขึ้นจาก 25% ก่อนเกิดโรคโควิด-19 ระบาด สู่ระดับ 38% ในขณะนี้ โดยประเทศที่มีความเสี่ยงได้แก่ ลาว มองโกเลีย มัลดีฟส์ และปาปัวนิวกินี พร้อมทั้งระบุว่า ในกรณีของศรีลังกานั้นได้ผิดนัดชำระหนี้แล้ว
เงินเฟ้อในลาวพุ่งแตะ 23.6% ในเดือนมิ.ย. ขณะที่ธนาคารเพื่อการพัฒนาเอเชีย (ADB) ประมาณการว่า เงินเฟ้อต่อปีของมองโกเลียจะแตะ 12.4% ในปีนี้ ขณะที่มัลดีฟส์เผชิญกับหนี้สินที่ระดับสูงมาเป็นเวลาหลายปีแล้ว โดยอัตราส่วนหนี้ต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของมัลดีฟส์ยังคงอยู่ที่ระดับสูงประมาณ 100% ของ GDP แม้ลดลงในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา
"มีหลายประเทศในภูมิภาคนี้ที่มีหนี้สินจำนวนมาก บางประเทศเหล่านี้มีหนี้สินท่วมท้น และนั่นคือสิ่งที่เราต้องเฝ้าระวัง" นายศรีนิวาสันต์กล่าว