สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานโดยอ้างแหล่งข่าวว่า ผู้นำระดับสูงของจีนได้กล่าวกับเจ้าหน้าที่ของรัฐบาลว่า เป้าหมายการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ระดับ 5.5% ในปีนี้ เป็นเพียงแนวทางเท่านั้น ไม่ใช่เป้าหมายที่จำเป็นจะต้องไปให้ถึง หรือ Hard Target
แหล่งข่าวระบุว่า บรรดาผู้นำจีนได้จัดการประชุมร่วมกับเจ้าหน้าที่ระดับรัฐมนตรีและระดับมณฑลเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยในระหว่างการประชุมนั้น ผู้นำจีนกล่าวว่า เป้าหมายการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ระดับ 5.5% ไม่ใช่เป้าหมายที่จะนำมาใช้ในการประเมินผลการบริหารเศรษฐกิจของบรรดาผู้นำ และจะไม่มีการใช้บทลงโทษหากผู้นำไม่สามารถบรรลุเป้าหมายดังกล่าวได้ นอกจากนี้ บรรดาผู้นำจีนยังยอมรับว่า มีโอกาสน้อยมากที่จีนจะสามารถผลักดันเศรษฐกิจให้บรรลุเป้าหมายดังกล่าว
ในเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา รัฐบาลจีนประกาศเป้าหมายการขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ปี 2565 ที่ระดับ 5.5% ซึ่งการประกาศเป้าหมายดังกล่าวเกิดขึ้นก่อนที่โรคโควิด-19 จะกลับมาแพร่ระบาดครั้งใหญ่ในเมืองสำคัญ ๆ ของจีน จนนำไปสู่การล็อกดาวน์เมืองเซินเจิ้นและเซี่ยงไฮ้ ขณะที่นักเศรษฐศาสตร์หลายคนเตือนว่า จีนจะไม่สามารถบรรลุเป้าหมาย GDP ที่ระดับ 5.5% ได้ในปีนี้ และมีแนวโน้มว่าตัวเลข GDP จะขยายตัวเพียง 4% หรือต่ำกว่านั้น
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ที่ผ่านมานั้น รัฐบาลจีนไม่เคยพลาดเป้าหมายการเติบโตทางเศรษฐกิจ อย่างไรก็ดี จีนไม่ได้กำหนดเป้าหมายเศรษฐกิจในปี 2563 ซึ่งเป็นปีที่โรคโควิด-19 แพร่ระบาดครั้งแรกในจีน
จีนเปิดเผยตัวเลข GDP ไตรมาส 1/2565 ขยายตัว 4.8% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งต่ำกว่าเป้าหมาย GDP ตลอดปี 2565 ที่รัฐบาลจีนกำหนดไว้ที่ระดับ 5.5% เนื่องจากผลกระทบของการใช้มาตรการล็อกดาวน์เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และต่อมาในไตรมาส 2/2565 จีนระบุว่าตัวเลข GDP ขยายตัวเพียง 0.4% เมื่อเทียบรายปี เนื่องจากผลกระทบของการล็อกดาวน์เช่นกัน
นักวิเคราะห์ของโกลด์แมน แซคส์ได้ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของ GDP จีนในปี 2565 ลงสู่ระดับ 4% ซึ่งต่ำตัวเลขเป้าหมายที่รัฐบาลจีนกำหนดไว้ที่ 5.5% เนื่องจากการใช้มาตรการล็อกดาวน์เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 นั้นส่งผลกระทบต่อกิจกรรมทางธุรกิจ