ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 400 จุดในวันพุธ (3 ส.ค.) ขานรับผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียน และข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใสของสหรัฐ ซึ่งรวมถึงดัชนีภาคบริการที่ดีดตัวขึ้นในเดือนก.ค. ขณะที่นักลงทุนจับตาการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนก.ค.ของสหรัฐในวันพรุ่งนี้
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 32,812.50 จุด พุ่งขึ้น 416.33 จุด หรือ +1.29%
-- บรรดานักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมวันนี้ ซึ่งจะเป็นการปรับขึ้นดอกเบี้ยครั้งเดียวมากที่สุดในรอบ 27 ปีหรือนับตั้งแต่ปี 2538 เพื่อสกัดการพุ่งขึ้นของเงินเฟ้อ
การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% จะส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยนโยบายของ BoE ดีดตัวขึ้นสู่ระดับ 1.75% โดยมีเป้าหมายที่จะควบคุมเงินเฟ้อ หลังจากดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนมิ.ย.พุ่งขึ้นแตะระดับ 9.4% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 40 ปี เนื่องจากราคาอาหารและพลังงานพุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง และส่งผลให้อังกฤษเผชิญวิกฤตการณ์ค่าครองชีพที่สูงเป็นประวัติการณ์
-- นายแพทย์เควิน โอคอนเนอร์ ซึ่งเป็นแพทย์ประจำทำเนียบขาว เปิดเผยว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำวัย 79 ปีของสหรัฐ ยังคงมีผลตรวจเชื้อโควิด-19 เป็นบวก
นายแพทย์โอคอนเนอร์เปิดเผยว่า ปธน.ไบเดนไม่มีไข้ แต่มีอาการไอเล็กน้อย และยังคงอยู่ในระหว่างการกักตัวเพื่อสังเกตอาการต่อไป
-- สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐเพิ่มขึ้น 4.5 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าลดลง 700,000 บาร์เรล
สถาบันปิโตรเลียมอเมริกา (API) ซึ่งเป็นกลุ่มอุตสาหกรรมน้ำมันของสหรัฐ เปิดเผยก่อนหน้านี้ว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐเพิ่มขึ้น 2.2 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว
-- เอสแอนด์พี โกลบอลเปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการของสหรัฐ ปรับตัวลงสู่ระดับ 47.3 ในเดือนก.ค. จากระดับ 52.7 ในเดือนมิ.ย. แต่ปรับตัวขึ้นจากตัวเลขเบื้องต้นที่ระดับ 47.0
ดัชนี PMI ปรับตัวลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 4 และขณะนี้อยู่ต่ำกว่าระดับ 50 ซึ่งบ่งชี้ว่าภาคบริการของสหรัฐอยู่ในภาวะหดตัว ซึ่งเป็นการหดตัวครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนมิ.ย.2563
-- กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส ได้เสร็จสิ้นการประชุมเมื่อคืนที่ผ่านมา โดยที่ประชุมมีมติเพิ่มกำลังการผลิตเพียง 100,000 บาร์เรล/วันในเดือนก.ย.
การเพิ่มกำลังการผลิตดังกล่าวถือว่าต่ำมากเมื่อเทียบกับการเพิ่มกำลังการผลิต 648,000 บาร์เรล/วันในเดือนก.ค.และส.ค. ขณะที่เดือนมิ.ย.มีการเพิ่มกำลังการผลิต 432,000 บาร์เรล/วัน
-- นายดมิทรี เพสคอฟ โฆษกทำเนียบเครมลิน กล่าวว่า ก๊าซพรอม ซึ่งเป็นบริษัทพลังงานรายใหญ่ของรัสเซีย กำลังรอเอกสารเพื่อให้บริษัทสามารถนำกังหันของท่อส่ง Nord Stream 1 มาจากเยอรมนี หลังมีการส่งไปซ่อมแซมที่แคนาดา
นายเพสคอฟกล่าวว่า รัสเซียกำลังรอเอกสารที่แสดงว่ากังหันดังกล่าวไม่ได้อยู่ภายใต้มาตรการคว่ำบาตรของชาติตะวันตก
นอกจากนี้ นายเพสคอฟยังแสดงความเห็นว่า ความตึงเครียดที่เกิดจากการยั่วยุของสหรัฐหลังการเดินทางเยือนไต้หวันของนางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ ไม่ควรถูกประเมินต่ำเกินไป
ทั้งนี้ ต่อคำถามของผู้สื่อข่าวที่ว่า โลกกำลังเข้าใกล้สงครามหรือไม่ นายเพสคอฟกล่าวว่า เขาไม่ต้องการใช้คำดังกล่าว แต่ขอย้ำว่า การเดินทางเยือนไต้หวันของนางเพโลซีถือเป็นการยั่วยุ
-- ข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญในวันนี้ ออสเตรเลียมีกำหนดเปิดเผยยอดนำเข้า ยอดส่งออก และดุลการค้าเดือนมิ.ย., เยอรมนีจะเปิดเผยยอดสั่งซื้อภาคโรงงานเดือนมิ.ย., อังกฤษมีกำหนดเปิดเผยธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ประชุมนโยบายการเงินและแถลงมติอัตราดอกเบี้ย และสหรัฐจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และยอดนำเข้า ยอดส่งออก และดุลการค้าเดือนมิ.ย.