ข้อมูลจากบริษัทเอลลิปติก (Elliptic) ซึ่งเป็นบริษัทติดตามการจารกรรมคริปโทเคอร์เรนซีระบุว่า กระเป๋าเงินดิจิทัล (digital wallet) เกือบ 8,000 บัญชีได้ถูกแฮกเกอร์ดูดเหรียญดิจิทัลออกไปเป็นมูลค่าสูงกว่า 5.2 ล้านดอลลาร์ ซึ่งรวมถึงเหรียญโซลานา และสเตเบิลคอยน์ USDC
ขณะที่บริษัทโซลานา สเตตัส (Solana Status) ยืนยันผ่านทางทวิตเตอร์ว่า เฉพาะแค่ช่วงเช้าวันพุธที่ 3 ส.ค. มีวอลเล็ตจำนวนราว 7,767 บัญชีได้รับความเสียหายจากการจารกรรม และตัวเลขการประเมินของเอลลิปติกในช่วงเวลาดังกล่าวสูงกว่าเล็กน้อยโดยอยู่ที่ 7,936 บัญชี
ข้อมูลจากคอยน์มาร์เก็ตแคป (CoinMarketCap) ระบุว่า ราคาเหรียญโซลานา ซึ่งเป็นคริปโทฯ ที่มีมูลค่าสูงเป็นอันดับ 3 รองจากบิตคอยน์และอีเธอร์นั้น ร่วงลงประมาณ 8% ในช่วง 2 ชั่วโมงแรกหลังจากตรวจพบว่าแฮกเกอร์จารกรรมเหรียญโซลานา
นับตั้งแต่ช่วงเย็นวันอังคารที่ 2 ส.ค. มีผู้ใช้งานจำนวนมากร้องเรียนว่า คริปโทฯ ที่พวกเขาเก็บไว้ในวอลเล็ตต่าง ๆ ซึ่งรวมถึง Phantom, Slope และ Trust Wallet นั้น สูญหายไปจนหมด
ทางด้าน Phantom ออกมาชี้แจงผ่านทวิตเตอร์ว่า ทางบริษัทกำลังทำการตรวจสอบรายงานดังกล่าวและไม่เชื่อว่าการจารกรรมครั้งนี้จะเกิดขึ้นกับเฉพาะวอลเล็ตของ Phantom เท่านั้น ขณะที่บริษัทออตเทอร์เซค (OtterSec) ซึ่งเป็นบริษัทตรวจสอบบล็อกเชนระบุว่า การจารกรรมครั้งนี้ได้ส่งผลกระทบต่อวอลเล็ตจำนวนมากบนแพลตฟอร์มต่าง ๆ
นายทอม โรบินสัน หัวหน้านักวิทยาศาสตร์ของบริษัทเอลลิปติกเปิดเผยกับสำนักข่าวซีเอ็นบีซีว่า ต้นเหตุของปัญหาการที่เหรียญคริปโทฯ ถูกดูดจากวอลเล็ตในครั้งนี้ยังไม่เป็นที่แน่ชัด แต่บริษัทออตเทอร์เซคระบุว่า เหตุการณ์ดังกล่าวอาจจะเกิดจากช่องโหว่ของซอฟต์แวร์ที่รองรับการใช้งานวอลเล็ต มากกว่าที่จะเกิดจากปัญหาบล็อกเชนโซลานา
รายงานระบุว่า ผู้เชี่ยวชาญยังไม่สามารถระบุชื่อแฮกเกอร์ที่ก่อเหตุจารกรรมครั้งนี้ได้ และการจารกรรมเหรียญโซลานาก็ยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในขณะนี้
"บรรดาวิศวกรในระบบนิเวศคริปโทฯ ซึ่งทำหน้าที่ช่วยเหลือบริษัทด้านความปลอดภัยต่าง ๆ นั้น กำลังตรวจสอบสาเหตุที่ทำให้เหรียญโซลานาถูกดูดออกจากวอลเล็ต" บริษัทโซลานา สเตตัสระบุในทวิตเตอร์