บริษัทไมครอน เทคโนโลยี ซึ่งเป็นผู้ผลิตชิปรายใหญ่ของสหรัฐ ปรับลดคาดการณ์รายได้ในไตรมาส 4 ของปีงบการเงิน 2565 ซึ่งข่าวดังกล่าวส่งผลให้ราคาหุ้นไมครอน เทคโนโลยี ปิดตลาดร่วงลงเกือบ 4% ในการซื้อขายที่ตลาดหุ้นนิวยอร์กในวันอังคาร (9 ส.ค.) และได้ฉุดราคาหุ้นของบริษัทผลิตชิปรายอื่น ๆ ดิ่งลงด้วย
ไมครอน เทคโนโลยีเปิดเผยในรายงานที่ยื่นต่อคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐว่า บริษัทคาดการณ์ว่ารายได้ในไตรมาส 4 ของปีงบการเงิน 2565 จะอยู่ในระดับต่ำกว่าตัวเลขที่เคยคาดการณ์ไว้ในช่วงปลายเดือนมิ.ย. โดยในเวลานั้น ไมครอนคาดการณ์ว่ารายได้ในไตรมาส 4 จะอยู่ที่ 6.8-7.6 พันล้านดอลลาร์
ทั้งนี้ ไมครอน เทคโนโลยีระบุว่า การชะลอตัวของเศรษฐกิจมหภาคและปัญหาห่วงโซ่อุปทานเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้บริษัทปรับลดคาดการณ์รายได้ พร้อมกับเตือนว่า กระแสเงินสดหมุนเวียนของบริษัทอาจชะลอตัวลงในไตรมาสหน้า เนื่องจากความต้องการชิปสำหรับคอมพิวเตอร์พีซีและสมาร์ตโฟนปรับตัวลง
อย่างไรก็ดี ไมครอน เทคโนโลยีประกาศว่าจะลงทุนมูลค่า 4 หมื่นล้านดอลลาร์ในปีนี้จนถึงปี 2573 เพื่อผลิตชิปในสหรัฐ โดยการลงทุนดังกล่าวได้รับการสนับสนุนทั้งในด้านการอนุมัติและสินเชื่อจากกฎหมาย CHIPS and Science Act ซึ่งประธานาธิบดีโจ ไบเดนได้ลงนามบังคับใช้เมื่อวานนี้ (9 ส.ค.)
นอกจากนี้ ไมครอน เทคโนโลยีประกาศว่าจะจ้างงานจำนวนมากถึง 40,000 ตำแหน่งในสหรัฐ ซึ่งรวมถึงพนักงานด้านเทคนิคและฝ่ายปฏิบัติการที่มีค่าตอบแทนสูง 5,000 ตำแหน่ง โดยไมครอน เทคโนโลยีคาดว่าการลงทุนดังกล่าวจะช่วยให้บริษัทมีส่วนแบ่งตลาดในสหรัฐเพิ่มขึ้นเป็น 10% จากเดิม 2%