ซาอุดี อารามโคซึ่งเป็นบริษัทน้ำมันยักษ์ใหญ่ของรัฐบาลซาอุดีอาระเบียเปิดเผยว่า กำไรสุทธิในไตรมาส 2/2565 พุ่งขึ้น 90% แตะที่ระดับ 4.84 หมื่นล้านดอลลาร์ จากไตรมาส 2 ปีที่แล้วซึ่งอยู่ที่ 2.25 หมื่นล้านดอลลาร์ และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 4.62 หมื่นล้านดอลลาร์ โดยได้แรงหนุนจากราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
อามิน นัสเซอร์ ประธานบริหารและซีอีโอของอารามโคกล่าวว่า "ผลประกอบการที่แข็งแกร่งในไตรมาส 2 สะท้อนให้เห็นว่า ความต้องการผลิตภัณฑ์น้ำมันของเราเพิ่มขึ้นอย่างมาก ส่วนในช่วงครึ่งแรกของปี 2565 นั้น กำไรสุทธิของเราพุ่งขึ้นแตะระดับ 8.79 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งแซงหน้าบริษัทน้ำมันรายใหญ่อย่างเอ็กซอน โมบิล, เชฟรอน และบีพี โดยบริษัทน้ำมันรายใหญ่ต่างก็ได้ประโยชน์จากราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่พุ่งสูงขึ้น"
สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า ราคาน้ำมันดิบพุ่งขึ้นทะลุ 130 ดอลลาร์/บาร์เรลเมื่อช่วงต้นปี 2565 โดยมีสาเหตุมาจากวิกฤตพลังงานที่เกิดขึ้นทั่วโลก รวมทั้งภาวะอุปทานชะงักงันอันเนื่องมาจากรัสเซียใช้กำลังทหารรุกรานยูเครน โดยการพุ่งขึ้นของราคาน้ำมันส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อทั่วโลกปรับตัวสูงขึ้นด้วย
ทั้งนี้ ซาอุดี อารามโค คาดการณ์ว่า การที่เศรษฐกิจทั่วโลกฟื้นตัวจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 นั้น จะทำให้ความต้องการใช้น้ำมันปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง