ตลาดหุ้นเอเชียมีแนวโน้มผันผวนในวันนี้ เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจโลกถดถอย รวมทั้งการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีแนวโน้มที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 0.75% ในการประชุมเดือนก.ย.นี้ โดยมีเป้าหมายเพื่อสกัดเงินเฟ้อ
ทั้งนี้ หากเฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% ในเดือนก.ย. ก็จะส่งผลให้เฟดขึ้นดอกเบี้ย 0.75% ติดต่อกันเป็นครั้งที่ 3 หลังจากปรับขึ้น 0.75% ทั้งในเดือนมิ.ย.และก.ค.
-- ในช่วงเช้าวันนี้ ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ร่วงลงกว่า 100 จุด ขณะที่ราคาน้ำมัน WTI ร่วงลงกว่า 1% และหลุดจากระดับ 90 ดอลลาร์/บาร์เรล เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่าเศรษฐกิจสหรัฐอาจเข้าสู่ภาวะถดถอย หากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 0.75% ในการประชุมเดือนหน้า
ณ เวลา 07.04 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ร่วงลง 160 จุด หรือ -0.48% แตะที่ 33,546 จุด
ส่วนเมื่อเวลา 07.12 น.ตามเวลาไทย สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนก.ย. ร่วงลง 1.07 ดอลลาร์ หรือ 1.18% แตะที่ระดับ 89.70 ดอลลาร์/บาร์เรล
-- นักลงทุนจับตาการประชุมประจำปีของเฟดที่เมืองแจ็กสัน โฮล รัฐไวโอมิง ในวันที่ 25-27 ส.ค. โดยคาดว่าเฟดจะส่งสัญญาณที่ชัดเจนมากขึ้นเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจสหรัฐ ทิศทางอัตราดอกเบี้ย รวมทั้งการปรับลดขนาดงบดุล (QT) ของเฟด ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับเงินเฟ้อ
สำหรับหัวข้อในการประชุมประจำปีนี้คือ "Reassessing Constraints on the Economy and Policy" โดยนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด จะขึ้นกล่าวสุนทรพจน์ในวันศุกร์ที่ 26 ส.ค.เวลา 10.00 น.ตามเวลาสหรัฐ หรือ 21.00 น.ตามเวลาไทย
-- ตลาดรอดูการตัดสินใจเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางจีน (PBOC) ในวันนี้ โดยในเวลา 08.15 น.ตามเวลาไทย ธนาคารกลางจีนจะแถลงมติอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้าชั้นดี (LPR) ทั้งประเภท 1 ปีและ 5 ปี
นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ธนาคารกลางจีนจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย LPR ประเภท 1 ปีลง 0.10% และปรับลดอัตราดอกเบี้ย LRP ประเภท 5 ปีลงมากกว่า 0.10% ในวันนี้ เพื่อพยุงเศรษฐกิจให้ฟื้นตัว หลังจากเศรษฐกิจภายในประเทศได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และการทรุดตัวของตลาดอสังหาริมทรัพย์
การคาดการณ์ดังกล่าวของนักวิเคราะห์มีขึ้นหลังจากธนาคารกลางจีนประกาศลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ระยะกลาง (MLF) ระยะ 1 ปีซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของจีน ลง 0.10% สู่ระดับ 2.75% เมื่อวันที่ 15 ส.ค.ที่ผ่านมา
-- จับตาวิกฤตพลังงานในยุโรป หลังจากก๊าซพรอมซึ่งเป็นบริษัทก๊าซยักษ์ใหญ่ของรัสเซียว่าจะระงับการส่งก๊าซธรรมชาติไปยังยุโรปผ่านทางท่อนอร์ด สตรีม 1 ตั้งแต่วันที่ 31 ส.ค.-2 ก.ย. เพื่อทำการซ่อมบำรุง
ก๊าซพรอมระบุในแถลงการณ์ว่า เครื่องอัดก๊าซที่ใช้งานได้เพียงเครื่องเดียวสำหรับท่อส่งก๊าซนอร์ด สตรีม 1 จะถูกปิดทำการเป็นเวลา 3 วัน และจะได้รับการซ่อมบำรุงรักษาตามปกติโดยผู้เชี่ยวชาญจากบริษัทซีเมนส์ของเยอรมนี ซึ่งเป็นผู้ผลิตเครื่องอัดก๊าซ
-- นอกเหนือจากการประชุมแจ็กสัน โฮลแล้ว นักลงทุนยังจับตาเหตุการณ์ต่าง ๆ ในสัปดาห์นี้ โดยในวันอังคาร สหรัฐจะเปิดเผยยอดขายบ้านใหม่เดือนก.ค. และนายนีล แคชแครี ประธานเฟดสาขามินนีแอโพลิสจะกล่าวสุนทรพจน์ในการประชุมภาคธุรกิจ ซึ่งคาดว่านายแคชคารีอาจจะส่งสัญญาณเกี่ยวกับทิศทางอัตราดอกเบี้ยเฟด
ส่วนในวันพฤหัสบดี สหรัฐจะเปิดเผยผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 2/2565 (ประมาณการครั้งที่ 2) และธนาคารกลางยุโรป (ECB) จะเปิดเผยรายงานการประชุมประจำเดือนก.ค.