ทั้งนี้ สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ค่าเงินยูโรร่วงแตะระดับ 0.99945 ยูโรต่อดอลลาร์ในช่วงสั้น ๆ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่กลางเดือนก.ค. และล่าสุดอ่อนค่าลง 0.2691% เทียบดอลลาร์
ขณะที่ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินดอลลาร์กับสกุลเงินอื่น ๆ ในตะกร้าสกุลเงินสำคัญ แตะระดับสูงสุดในรอบ 5 สัปดาห์ หลังเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เน้นย้ำจุดยืนการคุมเข้มนโยบายการเงินต่อไปก่อนถึงการประชุมของเฟดที่เมืองแจ็กสันโฮลในสัปดาห์นี้
นายโธมัส บาร์คิน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาริชมอนด์ระบุในวันศุกร์ที่ 19 ส.ค.ที่ผ่านมาว่า เฟดจะเดินหน้าปรับลดเงินเฟ้อให้กลับสู่เป้าหมายที่ระดับ 2%
นักลงทุนในตลาดการเงินทั่วโลกจับตาการประชุมประจำปีของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่เมืองแจ็กสัน โฮล รัฐไวโอมิง ในวันที่ 25-27 ส.ค. โดยคาดว่าเฟดจะส่งสัญญาณที่ชัดเจนมากขึ้นเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจสหรัฐ ทิศทางอัตราดอกเบี้ย รวมทั้งการปรับลดขนาดงบดุล (QT) ของเฟด ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับเงินเฟ้อ
ส่วนในยุโรป ราคาก๊าซที่พุ่งสูงขึ้นยังคงกดดันยูโรโซนอย่างต่อเนื่อง และปัญหามีแนวโน้มย่ำแย่ลง เพราะฤดูหนาวใกล้มาเยือนในไม่ช้า โดยธนาคารกลางยุโรป (ECB) มีภารกิจสำคัญในการลดแรงกดดันเงินเฟ้อท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจซบเซา
นายโยอาคิม นาเกล ประธานธนาคารกลางเยอรมนีให้สัมภาษณ์ผ่านหนังสือพิมพ์เยอรมนีว่า ธนาคารกลางยุโรปต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป แม้เยอรมนีเสี่ยงเผชิญเศรษฐกิจถดถอยมากยิ่งขึ้น เนื่องจากเงินเฟ้อจะเคลื่อนไหวในระดับสูงเกินไปตลอดปี 2566
ขณะนี้นักลงทุนต่างจับตาการประชุมนโยบายครั้งล่าสุดของ ECB ในสัปดาห์นี้ ซึ่งมีแนวโน้มที่จะเป็นไปในเชิงรุก ขณะที่ดัชนีผู้จัดการฝ่ายซื้อ (PMI) ขั้นต้นของยูโรโซนมีกำหนดเผยแพร่ในวันพรุ่งนี้ (23 ส.ค.)