บริษัทเซลเซียส เน็ตเวิร์ก (Celsius Network) ซึ่งเป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มปล่อยกู้คริปโทเคอร์เรนซีรายใหญ่ที่สุดในโลก ได้ยื่นฟ้องศาลเพื่อดำเนินคดีกับนายเจสัน สโตน อดีตผู้จัดการด้านการลงทุนของบริษัทในข้อหาสร้างความเสียหายหรือจารกรรมสินทรัพย์ของบริษัทเป็นมูลค่าหลายสิบล้านดอลลาร์ ก่อนที่เซลเซียสจะยื่นล้มละลายในเดือนที่แล้ว
ในคำร้องที่ยื่นต่อศาลล้มละลายเมืองแมนฮัตตันของสหรัฐ บริษัทเซลเซียสกล่าวหาว่า นายสโตน และบริษัทของเขาคือ คีย์ฟาย อิงค์ (KeyFi Inc) ได้กระทำการที่เป็นการประมาทอย่างร้ายแรง และกระทำการที่ไม่เหมาะสมอย่างยิ่งในการลงทุนด้านคริปโทเคอร์เรนซี หลังจากที่นายสโตนอวดอ้างตัวเองว่าเป็นผู้บุกเบิกธุรกิจคริปโทฯ
"สิ่งเหล่านี้พิสูจน์ให้เห็นว่า นายสโตนขาดความสามารถในการสร้างผลกำไรจากการซื้อขายคริปโทฯ จนเป็นเหตุให้เซลเซียสได้รับความเสียหายเป็นมูลค่าหลายสิบล้านดอลลาร์"
"นอกจากนี้ นายสโตนยังใช้สินทรัพย์ของบริษัทอย่างไม่เหมาะสม ด้วยการซื้อ NFT (Non-Fungible Tokens) จำนวนมาก และปกปิดหลักฐานการซื้อดังกล่าวด้วยการใช้บริการของทอร์นาโด แคช (Tornado Cash) ซึ่งเป็นผู้ให้บริการด้านคริปโทเคอร์เรนซียอดนิยมที่อนุญาตให้ผู้ใช้งานสามารถปิดบังการทำธุรกรรม และเพิ่งถูกกระทรวงการคลังสหรัฐคว่ำบาตรไปเมื่อวันที่ 8 ส.ค.ที่ผ่านมาเพราะอาจช่วยฟอกเงินจากอาชญากรไซเบอร์" เซลเซียสระบุในคำร้อง
เมื่อวันที่ 13 ก.ค.ที่ผ่านมา บริษัทเซลเซียสได้ยื่นคำร้องต่อศาลสหรัฐเพื่อขอพิทักษ์ทรัพย์ตามมาตรา 11 ของกฎหมายล้มละลาย หลังจากบริษัทได้รับผลกระทบอย่างหนักจากภาวะผันผวนในตลาดคริปโทฯ โดยศาลอนุญาตให้เซลเซียสสามารถดำเนินการขุดและขายบิตคอยน์ได้ในระหว่างที่เซลเซียสอยู่ในกระบวนการล้มละลาย
ทั้งนี้ เซลเซียสกำลังพิจารณาตัดขายสินทรัพย์บางส่วนหรืออาจจะทั้งหมดในระหว่างกระบวนการล้มละลาย และทางบริษัทจะยื่นคำร้องต่อศาลในวันที่ 1 ก.ย.นี้ เพื่อขออนุมัติกระบวนการและกำหนดการประมูลขายสินทรัพย์