ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 300 จุดในวันพฤหัสบดี โดยได้ปัจจัยหนุนจากแรงซื้อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี และข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ ขณะที่นักลงทุนจับตาการกล่าวสุนทรพจน์ของนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในการประชุมที่แจ็กสัน โฮลในวันนี้
-- นางเอสเธอร์ จอร์จ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาแคนซัส ซิตี้ ซึ่งเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมประจำปีของเฟดที่เมืองแจ็กสัน โฮลในสัปดาห์นี้กล่าวว่า ยังคงเร็วเกินไปที่จะระบุว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% หรือ 0.75% ในเดือนก.ย.
-- นักลงทุนหันมาคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% ในการประชุมกำหนดนโยบายการเงินในเดือนก.ย. หลังการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งเมื่อคืนนี้
ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 60.5% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% สู่ระดับ 3.00-3.25% ในการประชุมวันที่ 20-21 ก.ย. และให้น้ำหนักเพียง 39.5% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50%
-- Moscow Exchange ออกแถลงการณ์ระบุว่า ทางตลาดมีแผนที่จะกลับมาให้นักลงทุนเข้าซื้อขายหุ้นในช่วงค่ำ โดยเริ่มตั้งแต่เดือนก.ย.
การซื้อขายในช่วงคำจะเริ่มตั้งแต่เวลา 1600 GMT และสิ้นสุดเวลา 2050 GMT ขณะที่การซื้อขายในเวลากลางวันอยู่ในช่วง 0700 และ 1600 GMT
-- สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า บริษัท สยามไบโอไซเอนซ์ จำกัด มีกำไรพุ่งเกือบ 50 เท่าในปี 2564 ซึ่งเป็นปีที่บริษัทเริ่มการผลิตวัคซีนป้องกันโควิด-19 ของบริษัทแอสตร้าเซนเนก้า
สยามไบโอไซเอนซ์เปิดเผยว่า บริษัทมีกำไรพุ่งขึ้น 4,650% สู่ระดับ 1,690 ล้านบาทในปี 2564 ขณะที่รายได้พุ่งขึ้น 1,500% สู่ระดับ 4,900 ล้านบาท ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ จากการที่บริษัททำสัญญาผลิตวัคซีนป้องกันโควิด-19 จำนวน 200 ล้านโดสให้กับบริษัทแอสตร้าเซนเนก้า
ทั้งนี้ สยามไบโอไซเอนซ์ได้ถูกก่อตั้งขึ้นในปี 2552 เพื่อดำเนินการวิจัย พัฒนา ผลิตยา เครื่องมือแพทย์ และผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ โดยบริษัทประสบภาวะขาดทุนทุกปี จนถึงปี 2563 ซึ่งบริษัทมีกำไรเป็นครั้งแรกจำนวน 35.7 ล้านบาท
-- Worldometer ซึ่งเป็นเว็บไซต์รายงานข้อมูลล่าสุดที่มีการรวบรวมจากหน่วยงานด้านสาธารณสุขทั่วโลก ระบุว่า ยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 สะสมทั่วโลกมีจำนวน 603,775,649 ราย ส่วนผู้เสียชีวิตสะสมอยู่ที่ระดับ 6,481,386 ราย
-- สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญเมื่อคืนนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งที่ 2 สำหรับผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 2 โดยระบุว่าเศรษฐกิจสหรัฐหดตัว 0.6% หลังจากหดตัว 1.6% ในไตรมาส 1
ก่อนหน้านี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งที่ 1 ระบุว่า GDP หดตัว 0.9% ในไตรมาส 2
การที่เศรษฐกิจหดตัว 2 ไตรมาสติดต่อกัน ทำให้สหรัฐเข้าสู่ภาวะถดถอยทางเทคนิค
อย่างไรก็ดี นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ยืนยันว่า เขาไม่คิดว่าเศรษฐกิจสหรัฐเข้าสู่ภาวะถดถอย เนื่องจากหลายภาคส่วนในระบบเศรษฐกิจยังคงมีความแข็งแกร่ง ซึ่งรวมถึงตลาดแรงงาน
กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 2,000 ราย สู่ระดับ 243,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 255,000 ราย อย่างไรก็ดี ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานดังกล่าวอยู่สูงกว่าระดับ 215,000 ราย ซึ่งเป็นค่าเฉลี่ยต่อสัปดาห์ในช่วงก่อนเกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในสหรัฐ
-- นักลงทุนจับตานายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟดซึ่งมีกำหนดกล่าวสุนทรพจน์ในการประชุมที่เมืองแจ็กสัน โฮล รัฐไวโอมิง ในวันนี้ (26 ส.ค.) เวลา 10.00 น.ตามเวลาสหรัฐ หรือ 21.00 น.ตามเวลาไทย เพื่อหาสัญญาณที่ชัดเจนเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจสหรัฐ ทิศทางอัตราดอกเบี้ย รวมทั้งการปรับลดขนาดงบดุล (QT) ของเฟด
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญวันนี้ สหรัฐจะมีการรายงานดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือนก.ค. และสต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งเดือนก.ค. เวลา 19.30 น. ตามเวลาไทย ต่อด้วยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคขั้นต้นเดือนส.ค. เวลา 21.00 น.