โกลด์แมน แซคส์แนะนำให้นักลงทุนเข้าซื้อสินค้าโภคภัณฑ์ ขณะที่ความเสี่ยงของการเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยกำลังส่งผลกระทบต่อตลาดทั่วโลกในระยะใกล้ โดยระบุว่า สินค้าโภคภัณฑ์จำพวกวัตถุดิบส่งสัญญาณฟื้นตัวท่ามกลางวิกฤตพลังงานขั้นรุนแรงและภาวะอุปทานตึงตัว
ทีมนักวิเคราะห์ของโกลด์แมน แซคส์ ซึ่งรวมถึง นางซาบีน เชลส์, นายเจฟฟรี เคอร์รี และนายดาเมียน เคอร์วาลินกล่าวว่า "นักวิเคราะห์ของเราคาดการณ์ว่า แนวโน้มที่จะเกิดเศรษฐกิจถดถอยนอกยุโรปในช่วง 12 เดือนข้างหน้านั้นค่อนข้างต่ำ เรามองว่าน้ำมันเป็นการลงทุนระยะยาวที่น่าสนใจ เพราะน้ำมันเป็นสินค้าโภคภัณฑ์ที่พึ่งสุดท้ายในยุคที่เกิดภาวะขาดแคลนพลังงานขั้นรุนแรงเช่นปัจจุบัน"
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ราคาโภคภัณฑ์ชนิดต่าง ๆ พุ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในเดือนมิ.ย. เนื่องจากการที่รัสเซียรุกรานยูเครนได้ขัดขวางการผลิตและทำให้ห่วงโซ่อุปทานเผชิญภาวะชะงักงัน ก่อนที่จะชะลอตัวลงจากผลพวงของความวิตกกังวลเรื่องเศรษฐกิจถดถอยและธนาคารกลางต่าง ๆ รวมถึง ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ดำเนินการคุมเข้มนโยบายการเงินเพื่อสกัดเงินเฟ้อ โดยเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (26 ส.ค.) นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟดส่งสัญญาณปรับขึ้นดอกเบี้ยเพิ่มเติม ซึ่งฉุดตลาดหุ้นทั่วโลกดิ่งลงแตะระดับต่ำสุดในรอบหนึ่งเดือนในวันนี้
"เมื่อพิจารณาจากสินทรัพย์ชนิดต่าง ๆ แล้วจะพบว่าหุ้นมีแนวโน้มอ่อนแอ เนื่องจากเงินเฟ้อเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และเฟดได้ส่งสัญญาณเดินหน้าคุมเข้มนโยบายการเงินเพื่อสกัดเงินเฟ้อ ในทิศทางตรงกันข้าม สินค้าโภคภัณฑ์ถือเป็นสินทรัพย์ที่ดีที่สุดที่ควรถือครองในช่วงปลายวัฏจักร ซึ่งอุปสงค์ยังคงอยู่เหนืออุปทาน" โกลด์แมน แซคส์ระบุในรายงานหัวข้อ "Buy commodities now, worry about the recession later (ซื้อสินค้าโภคภัณฑ์ก่อน แล้วค่อยวิตกเรื่องเศรษฐกิจถดถอยภายหลัง)"