ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงในวันพุธ (31 ส.ค.) โดยดัชนีหลักทั้ง 3 ดัชนีปิดในแดนลบติดต่อกัน 4 วันทำการ และทำสถิติเดือนส.ค.ที่ย่ำแย่ที่สุดในรอบ 7 ปี เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 31,510.43 จุด ร่วงลง 280.44 จุด หรือ -0.88%
-- กระทรวงการค้า อุตสาหกรรม และพลังงานของเกาหลีใต้รายงานในวันนี้ว่า เกาหลีใต้ขาดดุลการค้าติดต่อกันเป็นเดือนที่ 5 ในเดือนส.ค. เนื่องจากการนำเข้าขยายตัวสูงกว่าการส่งออก โดยมีสาเหตุมาจากการที่เกาหลีใต้นำเข้าพลังงานในปริมาณมาก ท่ามกลางราคาพลังงานในตลาดโลกที่ปรับตัวสูงขึ้น
ทั้งนี้ ยอดส่งออกเดือนส.ค.ของเกาหลีใต้เพิ่มขึ้น 6.6% แตะที่ระดับ 5.667 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดสำหรับเดือนส.ค.นับตั้งแต่กระทรวงได้เริ่มเก็บรวบรวมข้อมูลในปี 2499 นอกจากนี้ ยอดส่งออกของเกาหลีใต้ยังทำสถิติเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบเป็นรายปีติดต่อกันเป็นเดือนที่ 22
-- นางลอเรตตา เมสเตอร์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาคลีฟแลนด์ กล่าวว่า เฟดจำเป็นต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป ก่อนที่จะสามารถผ่อนคลายมาตรการในการต่อสู้กับเงินเฟ้อ
นางเมสเตอร์ระบุว่า เฟดควรปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยให้อยู่เหนือระดับ 4% ภายในต้นปี 2566 และคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับดังกล่าวเป็นระยะเวลาหนึ่ง
-- เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวรายหนึ่งกล่าวว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ ได้สนทนาทางโทรศัพท์กับนายยาอีร์ ลาปิด นายกรัฐมนตรีอิสราเอล โดยมีการหารือกันเกี่ยวกับการรื้อฟื้นข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่าน ซึ่งผู้นำอิสราเอลแสดงท่าทีคัดค้านก่อนหน้านี้
ทางด้านทำเนียบนายกรัฐมนตรีอิสราเอลแถลงว่า ผู้นำทั้งสองได้หารือกันเกี่ยวกับข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่าน และได้แสดงความเห็นพ้องกันในการขัดขวางไม่ให้อิหร่านมีความคืบหน้าในการผลิตระเบิดนิวเคลียร์
-- นายจอห์น เคอร์บี โฆษกสภาความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐประจำทำเนียบขาว กล่าวว่า สหรัฐมีความหวังว่าจะสามารถรื้อฟื้นข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่าน และมีความเชื่อมั่นในการเจรจาประเด็นดังกล่าว
"เราเชื่อว่าเรากำลังใกล้ความสำเร็จมากกว่าเมื่อหลายสัปดาห์และหลายเดือนก่อน เนื่องจากอิหร่านยินยอมที่จะยกเลิกข้อเรียกร้องของพวกเขาซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับข้อตกลงดังกล่าว ดังนั้น เราจึงมีมุมมองในแง่บวกอย่างระมัดระวังว่าสิ่งต่างๆจะดำเนินไปในทิศทางที่ถูกต้อง" นายเคอร์บีกล่าว
-- สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐลดลง 3.3 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าลดลงเพียง 1.9 ล้านบาร์เรล
EIA ยังเปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบที่เมืองคูชิง รัฐโอกลาโฮมา ซึ่งเป็นจุดส่งมอบสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้าของสหรัฐ ลดลง 500,000 บาร์เรล
-- สำนักงานสถิติแห่งชาติอินเดีย (NSO) เปิดเผยตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ขยายตัว 13.5% ในช่วงเดือนเม.ย.-มิ.ย.2565 ซึ่งเป็นไตรมาสแรกของปีงบประมาณ 2565-2566 ของอินเดีย
ตัวเลข GDP ดังกล่าวสูงสุดในรอบ 1 ปี แม้ว่าต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 15.2%
-- สำนักงานสถิติแห่งสหภาพยุโรป (ยูโรสแตท) เปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของยูโรโซนพุ่งขึ้นสู่ระดับ 9.1% ในเดือนส.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์นับตั้งแต่ที่ยูโรสแตทเริ่มรวบรวมข้อมูลดังกล่าวในปี 2540 และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 9.0% จากระดับ 8.9% ในเดือนก.ค.
นอกจากนี้ ดัชนี CPI ยังสูงกว่าเป้าหมายเงินเฟ้อที่ธนาคารกลางยุโรป (ECB) กำหนดไว้ที่ระดับ 2%
-- นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ธนาคารกลางยุโรป (ECB) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% ในการประชุมวันที่ 8 ก.ย.เพื่อสกัดเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้นเป็นประวัติการณ์
"เงินเฟ้อที่พุ่งขึ้นจะกดดันอุปสงค์ ฉุดการขยายตัวทางเศรษฐกิจ และส่งผลให้เศรษฐกิจยูโรโซนเข้าสู่ภาวะถดถอยในฤดูหนาวนี้" นายริคคาร์โด มาร์เซลลี ฟาบิอานี นักวิเคราะห์จากออกซ์ฟอร์ด อิโคโนมิคส์ กล่าว
-- ข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญในวันนี้ จีนมีกำหนดเปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเดือนส.ค.จากไฉซิน, เยอรมนีจะเปิดเผยยอดค้าปลีกเดือนก.ค., อังกฤษมีกำหนดเปิดเผยราคาบ้านเดือนส.ค.จากเนชั่นไวด์ และดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นสุดท้ายเดือนส.ค.จากเอสแอนด์พี โกลบอล/ซีไอพีเอส, ฝรั่งเศส, เยอรมนี และอียูจะเปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นสุดท้ายเดือนส.ค.จากเอสแอนด์พี โกลบอล รวมถึงอียูจะเปิดเผยอัตราว่างงานเดือนก.ค. และสหรัฐมีกำหนดเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นสุดท้ายเดือนส.ค.จากเอสแอนด์พี โกลบอล, ดัชนีภาคการผลิตเดือนส.ค.จากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) และการใช้จ่ายด้านการก่อสร้างเดือนก.ค.