คาร์บอน บรีฟ เว็บไซต์ด้านวิจัยสภาพภูมิอากาศของอังกฤษเปิดเผยว่า จีนปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ลดลงประมาณ 8% ในไตรมาส 2/2565 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดยถือเป็นการลดลงเร็วที่สุดในรอบหนึ่งทศวรรษที่ผ่านมา
รายงานระบุว่า การปล่อยมลพิษลดน้อยลงนี้สะท้อนถึงการชะลอตัวอย่างหนักของการขยายตัวทางเศรษฐกิจในจีน ซึ่งเป็นผลจากการบังคับใช้มาตรการล็อกดาวน์อย่างเข้มงวด เพื่อสกัดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และวิกฤตการณ์ในภาคอสังหาริมทรัพย์ที่กำลังเผชิญภาวะหนี้ท่วมครั้งมโหฬาร โดยจีนเป็นประเทศที่มีสถิติการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์มากที่สุดในโลก แต่ระดับการปล่อยก๊าซของประเทศลดลงติดต่อกันเป็นไตรมาสที่ 4 แล้ว
นายลอรี มีรีเวียร์ทา นักวิเคราะห์ของศูนย์วิจัยพลังงานและอากาศสะอาดของฟินแลนด์ ซึ่งทำหน้าที่รวบรวมข้อมูลให้กับคาร์บอน บรีฟ เปิดเผยว่า จำนวนของการเริ่มต้นโครงการก่อสร้างในจีนลดลง 44% และลดลง 33% สำหรับจำนวนโครงการก่อสร้างที่แล้วเสร็จในไตรมาส 2/2565
"จีนปล่อยมลพิษลดลง เพราะการผลิตเหล็กกล้าและซีเมนต์ลดลงจากผลพวงของตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่ทรุดตัวลง รวมถึงการบังคับใช้มาตรการคุมโควิด-19 และการเติบโตที่ชะลอตัวลงของการอุปโภคไฟฟ้า ขณะเดียวกันการผลิตพลังงานหมุนเวียนเพิ่มมากขึ้นจะลดการอุปโภคน้ำมันด้านการขนส่งได้อย่างชัดเจน" นายมีรีเวียร์ทากล่าว
ภาคการก่อสร้างใช้เหล็กกล้าเป็นหลัก โดยอุตสาหกรรมเหล็กกล้าถือเป็นภาคที่มีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์มากเป็นอันดับสองของจีน รองจากการผลิตพลังงาน