เกิดเหตุแผ่นดินไหวรุนแรง 6.8 แมกนิจูดในมณฑลเสฉวน ทางภาคตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศจีนในวันนี้ (5 ก.ย.) ซ้ำเติมภัยแล้งครั้งประวัติศาสตร์และการบังคับใช้มาตรการล็อกดาวน์เพื่อสกัดโรคโควิด-19 ระบาด
ขณะที่ สำนักข่าวซินหัวเปิดเผยข้อมูลจากทางการท้องถิ่นว่า เหตุแผ่นดินไหวครั้งนี้ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 7 ราย
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า แผ่นดินไหวระลอกล่าสุดนี้เกิดขึ้นในเขตหลูติ้ง ทางฝั่งตะวันตกของมณฑลเสฉวน ซึ่งอยู่ห่างจากนครเฉิงตู เมืองเอกของมณฑลเสฉวนไปทางฝั่งตะวันตกประมาณ 226 กิโลเมตร (140 ไมล์) โดยแรงสั่นสะเทือนรับรู้ได้ถึงเฉิงตูและนครฉงชิ่ง ซึ่งอยู่ห่างออกไปทางฝั่งตะวันออก โดยข่าวเหตุแผ่นดินไหวดังกล่าวติด 5 อันดับแรกบนเว่ยป๋อ สื่อสังคมออนไลน์ชื่อดังของจีนในช่วงบ่ายวันนี้
แผ่นดินไหวครั้งนี้เกิดขึ้นหลังคลื่นความร้อนและภัยแล้ง ทำให้ความต้องการใช้พลังงานพุ่งสูงขึ้นและความสามารถในการผลิตพลังงานน้ำลดน้อยลงในมณฑลเสฉวน จนทางการต้องสั่งจำกัดการใช้ไฟฟ้าในโรงงานต่าง ๆ นานนับเดือน โดยอุปทานพลังงานเพิ่งฟื้นตัวขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังเหตุฝนตกในพื้นที่ทำให้สภาพอากาศเย็นลง
นอกจากนี้ เฉิงตูเพิ่งเผชิญปัญหาจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้ต้องสั่งล็อกดาวน์ประชาชนราว 21 ล้านคนนับตั้งแต่วันพฤหัสบดีที่ 1 ก.ย.ที่ผ่านมา เนื่องจากทางการยึดมั่นต่อนโยบายโควิดเป็นศูนย์ของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง