สำนักงานสถิติแห่งชาติออสเตรเลีย (ABS) รายงานในวันนี้ว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 2/2565 ของออสเตรเลียขยายตัว 3.6% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งดีกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ที่ 3.5% และแข็งแกร่งกว่าในไตรมาส 1 ที่มีการขยายตัว 3.3%
-- ราคาน้ำมัน WTI ร่วงลงเกือบ 1.6% ในช่วงเช้านี้ เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่า การที่จีนยังคงล็อกดาวน์เมืองสำคัญและการที่ธนาคารกลางทั่วโลกเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย จะส่งผลให้เศรษฐกิจโลกเผชิญภาวะถดถอย และทำให้ความต้องการใช้น้ำมันชะลอตัวลงด้วย
-- ประธานาธิบดี โจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐได้แสดงความเชื่อมั่นว่า เขาจะมีโอกาสพบปะพูดคุยกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ในการประชุมสุดยอดผู้นำกลุ่ม G20 ซึ่งจะจัดขึ้นที่เกาะบาหลีของอินโดนีเซียในเดือนพ.ย.นี้ หากผู้นำจีนเข้าร่วมการประชุมดังกล่าว
-- ราคาหุ้นบริษัทมิตซูบิชิ มอเตอร์ ทะยานขึ้น 84% ในปีนี้ แซงหน้าบริษัทยานยนต์ทั้งหมดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยได้รับแรงหนุนจากอุปสงค์รถยนต์ขนาดเล็กและรถกระบะที่กระเตื้องขึ้นในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
-- สำนักงานศุลกากรจีน (GAC) รายงานในวันนี้ว่า ยอดส่งออกเดือนส.ค.ของจีนปรับตัวขึ้นเพียง 7.1% ซึ่งชะลอตัวลงอย่างมากจากเดือนก.ค.ที่มีการขยายตัว 18% เนื่องจากภาวะเงินเฟ้อส่งผลให้อุปสงค์สินค้าจีนในต่างประเทศลดลง นอกจากนี้ มาตรการล็อกดาวน์เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และปัญหาคลื่นความร้อนยังส่งผลกระทบต่อการผลิต และทำให้เศรษฐกิจจีนมีความเสี่ยงที่จะเผชิญภาวะขาลง
-- ราคาบิตคอยน์ร่วงลงทะลุระดับ 19,000 ดอลลาร์ในช่วงเช้าวันนี้ ส่งผลให้มูลค่าตลาดคริปโทเคอร์เรนซีดิ่งลงสู่ระดับต่ำกว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์ เนื่องจากนักลงทุนเทขายบิตคอยน์ออกมาอย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางความกังวลที่ว่า การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางทั่วโลกจะส่งผลกระทบต่อสภาพคล่องในตลาดสินทรัพย์เสี่ยง ซึ่งรวมถึงตลาดคริปโทฯ
-- เงินเยนร่วงลงต่ำสุดในรอบ 24 ปีเมื่อเทียบกับดอลลาร์ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตราโตเกียววันนี้ เนื่องจากนักลงทุนเทขายเงินเยนและรุกซื้อดอลลาร์อย่างต่อเนื่อง หลังมีกระแสคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ
-- นายชูนิชิ ซูซูกิ รัฐมนตรีคลังญี่ปุ่นส่งสัญญาณในวันนี้ว่า ญี่ปุ่นอาจจะเข้าแทรกแซงตลาดปริวรรตเงินตรา หากเงินเยนอ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่อง พร้อมกับเตือนว่า รัฐบาลจะใช้มาตรการที่จำเป็นเนื่องจากเงินเยนมีการเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว และเป็นการเคลื่อนไหวเพียงฝั่งเดียว (one-sided move) จนเป็นเหตุให้สกุลเงินเยนดิ่งลงแตะระดับต่ำสุดครั้งใหม่ในรอบ 24 ปีเมื่อเทียบกับดอลลาร์
-- ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (CDC) ของสหรัฐเปิดเผยว่า สหรัฐตรวจพบผู้ป่วยโรคฝีดาษลิงสะสมที่ 20,733 รายแล้ว เมื่อนับถึงวันอังคาร (6 ก.ย.) โดยรัฐแคลิฟอร์เนียตรวจพบผู้ป่วยมากที่สุดจำนวน 3,833 ราย ตามด้วยรัฐนิวยอร์ก 3,526 ราย และรัฐฟลอริดา 2,126 ราย
-- สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า เมืองใหญ่ ๆ หลายแห่งของจีน รวมถึงเมืองหนานจิงและอู๋ซีในมณฑลเจียงซูทางตะวันออกของจีน ได้แนะนำให้ประชาชนอยู่บ้านในช่วงวันหยุดยาวเทศกาลไหว้พระจันทร์ 10-12 ก.ย.นี้ โดยเลี่ยงการเดินทางหากไม่จำเป็น เพื่อป้องกันไม่ให้โรคโควิด-19 แพร่ระบาด
นอกจากนี้ เขตพัฒนาเศรษฐกิจและเทคโนโลยีอี้จวงในกรุงปักกิ่งยังสั่งห้ามไม่ให้เจ้าหน้าที่พรรคคอมมิวนิสต์เดินทางออกนอกเมืองในช่วงวันหยุดยาวนี้หากไม่จำเป็น รวมถึงช่วงสัปดาห์ฉลองวันชาติจีน หรือโกลเดนวีค วันที่ 1-7 ต.ค.ด้วย
-- สำนักงานสถิติแห่งสหภาพยุโรป (ยูโรสแตท) เปิดเผยในวันนี้ (7 ก.ย.) ว่า การขยายตัวทางเศรษฐกิจในไตรมาส 2/2565 ของยูโรโซนแข็งแกร่งกว่าที่ประมาณการไว้ก่อนหน้านี้ เนื่องจากการใช้จ่ายในภาคครัวเรือนฟื้นตัวขึ้นหลังชะงักงันมาร่วมครึ่งปี แม้รายได้ที่ใช้จ่ายได้จริงจะถูกบีบคั้นจากภาวะเงินเฟ้อที่พุ่งสูงขึ้นก็ตาม
รายงานระบุว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ของยูโรโซน ซึ่งประกอบด้วย 19 ประเทศที่ใช้สกุลเงินยูโรร่วมกัน ปรับตัวขึ้น 0.8% ในไตรมาส 2 เมื่อเทียบรายไตรมาส และปรับขึ้น 4.1% เมื่อเทียบรายปี